ตอบโจทย์ทุกเส้นทางด้วยรองเท้าวิ่งจาก Nike

การออกกำลังกายด้วยการวิ่งดูเหมือนเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับคนรักสุขภาพ อาจจะเนื่องมาจากเป็นกิจกรรมที่ทำได้ง่าย และทำได้สะดวก ขอแค่มีพื้นที่หรือเส้นทางในการวิ่งที่เหมาะสมปลอดภัยก็เป็นอันใช้ได้ และยังทำให้เราได้ออกไปดูนั่นดูนี่นอกบ้านให้เกิดความรู้สึกปลอดโปร่งภายในจิตใจ เรียกว่าเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้รู้สึกว่าได้ออกแรงแบบเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการออกกำลังที่เห็นผลได้เร็วเห็นผลได้จริง คนไหนอ้วนลงพุง อยากมีรูปร่างดี ออกไปวิ่งสักพัก กลับมาหล่อกลับมาสวย ทรวดทรงองค์เอวมาครบ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีคนสนใจทำกิจกรรมการออกกำลังกายนี้มากขึ้นทุกที ไม่นับคนที่เขารักการวิ่งแบบเป็นการกีฬาและเพื่อการแข่งขันซึ่งก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก… จุดเด่นของการวิ่งน่าจะอยู่ที่เรียบง่ายใช้อุปกรณ์น้อยถึงน้อยมาก เพราะมีแค่รองเท้าคู่เดียวก็เพียงพอไม่ต้องไปง้ออุปกรณ์อื่นให้ยุ่งยาก แต่… จุดนี้แหละสำคัญหากไม่มีรองเท้าใส่วิ่งที่เหมาะสม ทำให้เกิดการบาดเจ็บมาแล้วนักต่อนักดังนั้น ต้องรู้จักเลือกรองเท้าในการวิ่งให้เหมาะ ซึ่งแน่นอนว่าหากเราพูดถึงเรื่องรองเท้ากีฬา แบรนด์ที่ก้องขึ้นมาในความคิดแน่ๆ แบรนด์หนึ่งก็คือ Nike ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีความโดดเด่นและได้รับการยอมรับมานาน สำหรับรองเท้าที่เหมาะสำหรับใส่วิ่งก็มีอยู่หลายรุ่นเช่น Nike Air Max หรือ Nike Flyknit ซึ่งเราจะมาว่ากันถึงความน่าสนใจของรองเท้าสำหรับใส่วิ่งเหล่านี้

Nike Air Max รองเท้าวิ่งระดับตำนานที่ไม่เคยหยุดยั้งในเรื่องการพัฒนา

สำหรับคนที่เป็นนักวิ่งหรือคนที่ชื่นชอบการวิ่งเพื่อการออกกำลังกาย รองเท้าวิ่งยี่ห้อ Nike ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่มีรุ่นที่โดดเด่นเป็นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่งโดยเฉพาะ ของแบรนด์นี้ก็ คือ Nike Air Max  ซึ่งได้เริ่มผลิตออกมาวางจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่ปี 1987 ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่มีการนำเอาหลอดบรรจุอากาศเข้ามาใส่ไว้ในรองเท้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับแรงกระแทกแต่ไม่เพิ่มน้ำหนักให้กับรองเท้าให้กลายเป็นอุปสรรค ซึ่งแนวคิดนี้มาจากวิศวกรยานอวกาศ ที่ชื่อ Frank Rudy ที่ได้นำเอาแนวคิดเรื่องนี้มานำเสนอให้กับผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท จนในที่สุดได้ออกมาเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมวงการรองเท้ากีฬาและมีการต่อยอดพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้  แต่นอกจาก Nike Air Max  แล้ว ชื่อที่คุ้นกันดีอีกชื่อสำหรับนักวิ่งก็คือ Nike Air Max 90 ซึ่งเป็นผลมาจากพัฒนาต่อยอดของทีมงานออกแบบ ที่มีการแบ่งชุดถุงอากาศรองรับแรงกระแทกออกเป็นสองชิ้น แทนที่จะติดกันเป็นแพชุดเดียวแบบเดิม โดย Nike Air Max 90 ออกแบบให้ชิ้นหนึ่งอยู่ส่วนปลายของเท้า และอีกส่วนอยู่ที่ส้นเท้าเพื่อรองรับน้ำหนัก ซึ่งมีการโชว์ให้เห็น ทำให้กลายเป็นคอลเล็กชั่นใหม่ของรองเท้าตระกูลนี้ ที่มีจุดเด่นในเรื่องความสบายในการสวมใส่และมีประสิทธิภาพเยี่ยมในการรองรับน้ำหนักทำให้ผู้ใส่วิ่งรู้สึกสบายและลดปัญหาการเกิดอาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี เลือก Nike Air Max 90 รับรองไม่ผิดหวัง

Nike Flyknit รองเท้าวิ่งบางเบาจนเปรียบเสมือนผิวอีกชั้นของร่างกาย

รองเท้าวิ่งที่น่าสนใจอีกตัวของแบรนด์ Nike และมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ก็คือ Nike Flyknit ซึ่งเป็นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่งที่มีรูปลักษณ์ไม่ซ้ำใคร คือมีความบางและเบามาก แนวคิดในการออกแบบก็คือ การลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด ให้เหลือแค่สิ่งที่จำเป็นและเพียงพอต่อการรองรับน้ำหนักในระดับที่มีความปลอดภัยและป้องกันอาการบาดเจ็บได้ เป็นแนวคิดในการลดทอนเพื่อหาความลงตัว รูปลักษณ์ภายนอกก็มีความแปลกตา เพราะเป็นวัสดุแบบถักที่มีความนุ่มเหนียวและยืดหยุ่น เวลาสวมใส่ Nike Flyknit แทบจะไม่รู้สึกว่ากำลังใส่รองเท้าอยู่ จนมีการกล่าวว่ามันกระชับและเบาจนเหมือนเป็นแค่ผิวหนังอีกชั้นของเราเท่านั้นเอง แต่อย่างที่กล่าวไปแล้ว แม้จะดูบางและเบา แต่การเลือกใช้วัสดุเต็มไปด้วยสิ่งที่พัฒนามาจนถึงขั้นสุดยอด Nike Flyknit สามารถรองรับแรงกระแทกจากการวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นรองเท้าที่นักวิ่งสวมใส่และชนะการแข่งขัน World Championships men marathon 2011 มาแล้ว และ… ที่น่าสนใจคือ คนที่ชนะอันดับ 1 , 2 และ 3 ล้วนแต่ใส่รองเท้า Nike Flyknit เหมือนกันทั้งหมดเป็นการยืนยันได้ถึงประสิทธิภาพของรองเท้าตัวนี้ได้เป็นอย่างชัดเจน

Nike เป็นแบรนด์รองเท้าที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน และมุ่งมั่นเสมอในการพัฒนาเพื่อการสวมใส่ที่ดีขึ้นอยู่ตลอด สำหรับคนที่สนใจการวิ่ง ก็ลองตัดสินใจและลองไปเลือกหาดูว่าเลือกใส่รองเท้าเทคโนโลยีที่พัฒนาจากวิศวกรอวกาศอย่าง ตระกูล Nike Air Max  หรือ อยากจะลองรองเท้าวิ่งที่สร้างจากแนวคิดลดทอนเพื่อให้ได้ประโยชน์ที่จำเป็นอย่าง Nike Flyknit แต่บอกได้เลยว่าเด็ดทั้งคู่ พร้อมพาเราวิ่งตะลุยไปได้ทุกที่

ภาพประกอบ : Pinterest