รวม 4 สมาร์ทวอทช์ของคนคูลๆ ที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีผลทำให้การใช้ชีวิตกิจกรรมต่างๆ ของเราเปลี่ยนไป นาฬิกาก็เช่นกัน จากนาฬิกาคลาสสิคที่มีเข็มและตัวเลข ใช้ถ่านเป็นตัวขับเคลื่อนก็กลายเป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีความสามารถมากกว่า ทั้งใช้ในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ, รู้กระทั่งการปรับเปลี่ยนอริยาบถ, บอกตำแหน่งในแผนที่ หรือแม้แต่แจ้งเตือนโซเชียลมิเดียและอีกมากมาย ความสามารถต่างๆ เหล่านี้ ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น ส่วนจะมีรุ่นไหนดีและโดดเด่นบ้างเรามาดูกัน

Apple Watch Series 5

Apple watch series 5

Shop Now

พัฒนากันมาจนถึงรุ่น 5 แล้วสำหรับสมาร์ทวอทช์จาก Apple กลับมาคราวนี้มีการเพิ่มฟีเจอร์ Always on จอแสดงผลแบบติดตลอด เอาไว้ดูเวลากันแบบไม่ต้องบิดข้อมือให้เมื่อย ซึ่งเซ็นเซอร์ตรวจจับการออกกำลังกายอาจจะไม่ใช่จุดเด่นสำหรับรุ่นนี้ แต่จะเน้นไปที่แฟชั่นมากกว่า โดยหน้าปัดนาฬิกาแต่ละแบบนั้นสีสันสดใสโดนใจวัยรุ่นผนวกเข้ากับสายนาฬิกาที่มีให้เลือกจับมิกซ์จับแมทช์กับลุคการแต่งกายได้อย่างลงตัว ถึงเซ็นเซอร์จะไม่ใช่จุดเด่น แต่ก็มีฟีเจอร์แจ่มๆ มาให้มากมาย

อย่างการตรวจจับคลื่นหัวใจที่แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีการเต้นที่สูงหรือต่ำเกินไปหรือจะฟีเจอร์แจ้งเตือนเดซิเบลเมื่อมีเสียงดังทำลายโสตประสาท รวมถึงฟีเจอร์ Breath ที่ช่วยให้เราหายใจเข้าออกผ่อนคลายความเครียดที่ทำออกมาได้ลงตัวมากๆ โดยรวมแล้ว Apple Watch เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ออกแบบมาให้เราใส่ใจสุขภาพทั้งการออกกำลังกาย การดื่มน้ำรับประทานอาหาร และกิจจกรรมในระหว่างวัน เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับสาวกไว้ใช้ชีวิตดำเนินกิจกรรมระหว่างวันกันได้สบายๆ เลยล่ะ

Samsung Galaxy Watch 3

Samsung Galaxy Watch 3

สมาร์ทวอทช์ที่เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการออกแบบตัวเรือนที่หมุนได้เหมือนใช้นาฬิการุ่นคลาสสิค ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงแอพพลิเคชั่น เปลี่ยนหน้าปัด หรือปรับฟังค์ชั่นได้ลงตัว โดยเวอร์ชั่นนี้ได้รับการออกแบบให้หน้าปัดนาฬิกามีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ขนาดตัวเครื่องบางลงถึง 15% ฟีเจอร์ดูแลสุขภาพก็มากันครบแบบที่ควรจะมี โปรแกรมการออกกำลังกายที่ครบครัน

จุดเด่นอีกอย่างก็คือการตรวจวัดคุณภาพการนอนที่แม่นยำ เพราะสามารถวิเคราะห์ ช่วงเวลาการนอนหลับ, ช่วงตอนฝัน, ช่วงหลับลึก หรือตื่นกลางดึก ก็ทำได้แม่นยำ เนื่องด้วยการจับมือร่วมกับ Sleep Foundation เพื่อพัฒนาการนอนหลับที่ดีให้นอนหลับสนิทในทุกวัน นอกจากนี้ Samsung Galaxy Watch ยังเน้นไปที่ดีไซน์ที่ดูพรีเมี่ยมใส่กับสายหนังให้ลุคที่แสนหรูหรา

Garmin Forerunner 935

Garmin Forerunner 935

ถ้าเป็นสายวิ่งเน้นเซ็นเซอร์ที่แม่นยำต้อง Garmin รุ่นนี้เลย เพราะมันมีฟีเจอร์ที่รองรับการวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และมัลติสปอร์ตนานับชนิด ตรวจจับการวิ่งการออกกำลังกายได้ละเอียดยิบยันระยะก้าวของขาในขณะที่วิ่ง ระดับความสมดุลของเท้าที่เหมาะสม รวมทั้งวิเคราะห์ค่าต่างๆ เพื่อใช้ในการปรับปรุงพัฒนาศักยภาพของร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเปลี่ยนการตรวจจับสำหรับกีฬาแต่ละประเภทได้ในปุ่มเดียว

สายของสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ถอดเปลี่ยนง่าย พร้อมสำหรับทุกๆ อีเวนท์ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสายเพื่อไปออกกำลังกายหรือจะเปลี่ยนสายเพื่อไปออกงานต่างๆ ก็สามารถทำได้แบบสบายๆ ด้านแบตเตอรี่สามารถใช้งานปกติได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ เปิด GPS วัดคลื่นหัวใจแบบไม่มีพักได้นานถึง 21 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการเทรนนิ่งอย่างหนักหน่วงในแต่ละวัน เซ็นเซอร์อื่นๆ ก็มากันครบ สามารถตรวจวัดความกดอากาศ มีเข็มทิศไฟฟ้าและตัววัดระดับความสูง สายวิ่งไตรกีฬา ปีนเขา เรือพาย และเทรนนิ่งทั้งหลายไม่มีไม่ได้แล้ว

FITBIT Versa 2

Fitbit Versa 2

Shop Now

มาถึงเวอร์ชั่น 2 กันแล้วสำหรับ Fitbit Versa สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงหลายจุดเพื่อให้ทัดเทียมกับคู่แข่ง เปลี่ยนจอมาเป็น AMOLED ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมฟีเจอร์ Always on จอแบบติดตลอดก็ถูกใส่มาเรียบร้อย โดยรุ่นนี้จะเน้นไปที่การสั่งการด้วยเสียงและชูจุดเด่นด้านฟิตเนตที่ไม่แพ้ใคร Sleep Mode ก็ออกแบบได้ลงตัว ตรวจวัดค่าการนอนออกมาเป็นคะแนนให้ใช้วิเคราะห์ ทั้งยังคอยแจ้งเตือนเป้าหมายในแต่ละวัน แถมใช้ดำน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร แบตเตอรี่สแตนด์บายนาน 6 วัน อะไรที่เคยขาดในรุ่นก่อนๆ Fitbit เติมให้ครบแล้วในรุ่นนี้ สาวกสบายใจได้

จะเห็นได้ว่าสมาร์ทวอทช์แต่ละแบรนด์แต่ละรุ่นต่างก็มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน แล้วเพื่อนๆ ล่ะชอบแบบไหนกันบ้างอย่างไรก็ตามก่อนการตัดสินใจซื้อก็อย่าลืมศึกษาฟีเจอร์กันให้ละเอียด เพื่อให้สมาร์ทวอทช์ที่เลือกมานั้นตอบโจทย์การใช้งานของเพื่อน ๆ ได้มากที่สุด