สาวๆ เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไม “แป้งแต่งหน้า” ถึงมีหลายประเภทนัก บางทีเวลาซื้อแป้งแต่งหน้าก็ไม่รู้ว่าจะเลือกชนิดไหนดีให้เหมาะกับการแต่งหน้า หรือลักษณะประเภทผิวของเรา วันนี้ Central Inspirer จึงพามาสำรวจแป้งแต่งหน้าในเคาน์เตอร์แบรนด์ชั้นนำไปจนถึงในท้องตลาดว่ามีกี่ประเภทบ้าง แล้วแต่ละอย่างทำหน้าที่อะไร ไปจนถึงเราจะเลือกแป้งแต่งหน้าชนิดไหนให้เหมาะกับโอกาสที่จะได้ใช้กันค่ะ

แป้งแต่งหน้าใช้ทำอะไร ?

ปกติแล้วแป้งหน้าจะมีหน้าที่หลักๆ คือการ “เซ็ต” รองพื้นหรือผลิตภัณฑ์เนื้อครีมอื่นๆ ให้อยู่ติดทนกับหน้าเราได้เป็นเวลานานขึ้น เพราะรองพื้นและผลิตภัณฑ์แบบครีมต่างๆ จะทำให้หน้าของสาวๆ มีความมันเพิ่มมากขึ้น การลงแป้งแต่งหน้าจึงช่วยให้รองพื้นสามารถเซ็ตตัวและมีความแมตต์มากขึ้นเพื่อเกาะอยู่บนหน้าเราได้นานขึ้นนั่นเอง แต่นอกจากนั้นแล้วแป้งแต่งหน้าบางประเภทยังช่วยอำพรางรูขุมขน เพิ่มความกระจ่างใสและความเป็นประกายให้กับใบหน้าเราได้ด้วย
  • Loose Powder

หรือที่เรียกกันว่า “แป้งฝุ่น” เป็นแป้งที่เหมาะอยู่กับโต๊ะเครื่องแป้งของสาวๆ ไม่นิยมพกพาติดกระเป๋า เพราะเนื่องจากเป็นแป้งฝุ่นที่อาจจะหกเลอะเทอะง่าย สาวๆ จึงควรใช้คู่กับแปรงแต่งหน้าหัวใหญ่ๆ ฟูๆ เพื่อปัดแป้งเซ็ตเมคอัพได้กระจายทั่วหน้านั่นเอง โดยแป้งฝุ่นส่วนมากมักมีเนื้อโปร่งแสง (translucent) และอาจเป็นประเภท mineral ที่เหมาะกับสาวๆ ผิวแพ้ง่ายก็ได้

  • Pressed Compact Powder

หรือที่เรียกว่า “แป้งอัดแข็ง” เป็นแป้งที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพกพา เพราะแป้งแต่งหน้าประเภทนี้จะมาในรูปแบบที่สาวๆ สามารถใช้พกพาและเติมระหว่างวันได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนมากมีพัฟมาให้ด้วย โดยแป้งอัดแข็งนั้นก็มีให้เลือกมากมายทั้งสี Translucent แบบโปร่งแสง แป้งอัดแข็งผสมรองพื้น แป้ง Mineral อัดแข็ง ที่สาวๆ สามารถเลือกพกพาไว้ใช้  Touch Up ระว่างวันได้ง่ายๆ

ประเภทของแป้งแต่งหน้าแบบต่างๆ

Translucent Powder

แป้งแต่งหน้าที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า เพิ่มความแมตต์หลังการแต่งหน้า และช่วยให้เมคอัพติดทนขึ้นระหว่างวัน โดยแป้งประเภท Translucent นั้นเป็นแป้งแบบโปร่งแสง จึงไม่ทำให้สีของเมคอัพผิดเพี้ยนไป มีทั้งรูปแบบของ Translucent Loose Powder หรือแป้งฝุ่นเนื้อละเอียด และรูปแบบ Translucent Pressed Powder แป้งแบบอัดแข็ง โดยนอกจากการเซ็ตเมคอัพให้แมตต์และติดทนแล้ว นักแต่งหน้าบางคนยังใช้แป้งประเภทนี้ทำการ “bake” หรือใช้แป้งประมาณมากกว่าปกติทำการโปะหลังการลงคอนซีลเลอร์ใต้ตาประมาณ 5-10 นาที แล้วค่อยปัดออกเพื่อควบคุมความมันและเพิ่มความเรียบเนียนให้บริเวณนั้นๆ มากขึ้นอีกด้วย

 
  

Mineral Powder

สำหรับสาวผิวบอบบางแพ้ง่ายที่อยากจะหลีกเลี่ยงสารเคมีต่างๆ ที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอาง แป้งประเภท Mineral powder น่าจะตอบโจทย์สาวๆ ในกลุ่มนี้ เพราะแป้งแต่งหน้าประเภทนี้ส่วนมากจะปราศจากสารเคมีในเครื่องสำอาง อย่างเช่น ซิลิโคน น้ำมัน สารกันบูด ฯลฯ และผสมแร่ธาตุรวมถึงวิตามินต่างๆ จากธรรมชาติมาแทน แป้งแต่งหน้าประเภทนี้จึงค่อนข้างปลอดภัยกับคนผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้ Mineral powder ยังมีหลากหลายประเภททั้งแบบ Setting Powder สำหรับลุคเบาๆ ไปจนถึงแบบที่ผสมรองพื้นสำหรับลุคที่เน้นงานผิวเนี๊ยบสวย เพื่อให้สาวๆ ผิวแพ้ง่ายได้มีทางเลือกในการแต่งหน้าได้อย่างหลากหลายนั่นเอง
 

Finishing Powder

ตามชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นแป้งแต่งหน้าประเภทเก็บงานเมคอัพท้ายสุดให้สวยเนี้ยบ แป้งประเภทนี้อาจใช้เป็นแบบ Translucent แบบโปร่งแสงไว้เซ็ตงานผิวหลังทารองพื้นก็ได้ หรือหากสาวๆ คนไหนที่ต้องการความเนียนกริ๊บอีกระดับก็สามารถใช้แบบแป้งผสมรองพื้นหรือ Powder foundations ที่สามารถช่วยสร้างงานผิวให้สวยเป๊ะขึ้นได้ หรือใครที่อยากได้งานผิวเปล่งประกายแนะนำให้ลองใช้ Finishing Powder ที่ผสมซิมเมอร์ดูก็ได้ เพราะจะช่วยเพิ่มมิติให้ผิวหน้าดูเปล่งประกายระยิบระยับเมื่อต้องแสงนั่นเอง

 
นอกจากการรู้ประเภทและหน้าที่ของแป้งแต่งหน้าแต่ละแบบแล้ว การเลือกใช้แป้งแต่งหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวของเรายังเป็นอีกประเด็นที่ควรใส่ใจด้วยนะคะ เพราะสภาพผิวแต่ละประเภทก็เหมาะกับแป้งแต่ละแบบ หากสาวๆ มีแนวโน้มเป็นคนผิวแห้ง ควรเลือกใช้แป้งในปริมาณที่ไม่มากเกินไป และก่อนแต่งหน้าควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ให้ผิวชุ่มชื้นก่อนทุกครั้ง ส่วนสาวๆ ผิวมัน อาจจะเลือกใช้แป้งประเภท Translucent ที่ทั้งช่วยเซ็ตเมคอัพและควบคุมความมันวาวบนใบหน้าได้ระดับหนึ่ง และหากสาวๆ คนไหนมีผิวดีอยู่แล้วและชอบแต่งหน้าลุคเบาๆ แนะนำให้ลองเลือกใช้แป้งผสมรองพื้นแทนการใช้รองพื้นเลยก็ได้เพื่อความบางเบาและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

woman with red lipstick and blonde hair

เป็นยังไงกันบ้างคะกับความรู้เรื่องแป้งแต่งหน้าและเทคนิคง่ายๆ ที่ Central Inspirer นำมาฝากกันวันนี้ หวังว่า Tips & Tricks เหล่านี้จะช่วยให้สาวๆ สนุกกับการแต่งหน้าและการดูแลตัวเองมากขึ้นนะคะ 🙂