8-effective-tips-to-lose-fat-in-your-face

8 เทคนิคช่วยลดปัญหาหน้ากลม! มุมไหนก็มั่นใจ 2025ลดใบหน้าให้เรียว มุมไหนก็มั่นใจ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องของน้ำหนัก ตั้งใจมากในการลดน้ำหนัก ทำทุกอย่างทั้งการออกกำลังกาย และการลดอาหารเพื่อให้ร่างกายจะได้ยุบยอบลงไปบ้าง การลดน้ำหนักว่ายากแล้ว การเน้นลดสัดส่วนในบางจุดบนร่างกายยิ่งยากกว่า หลายคนพยายามลดต้นขา ลดพุง ลดสะโพก ลดต้นแขน หรือแม้แต่การลดใบหน้า และปัญหาหน้าอ้วนกลมดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่น่าหนักใจไม่น้อย มีสาวๆ หลายท่านไม่ได้มีน้ำหนักเกิน แต่ดันมีใบหน้าอ้วนกลม ยิ่งคนที่มีน้ำหนักมากยิ่งไม่ต้องสงสัย ปัญหาหน้าอ้วนกลมนั้นเจอได้ในหมู่คนที่มีน้ำหนักเกินเสียเป็นส่วนมากค่ะ

FAT FACE

และไม่ว่าสาวหน้าอ้วยจะหาวิธีแต่งหน้าอย่างไร จะคอนทัวร์ จะปัดแก้มเพื่อพลางใบหน้ากลมๆ สักเท่าไหร่ มันเป็นการยากที่จะซ่อนใบหน้ากลมๆ ของคุณได้ จนสาวหลายคนหมดความมั่นใจ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหานี้ Central Inspirer มีคำแนะนำดีๆ มาฝากค่ะ

8 เทคนิคช่วยลดปัญหาหน้ากลม

1. ดื่มน้ำมากๆ

1 WATER

คุณเคยทราบหรือไม่ว่าในขณะที่คุณรู้สึกหิว คุณจะมีความรู้สึกกระหายน้ำร่วมอยู่ด้วย หากคุณปล่อยให้ตัวเองหิวน้ำมากๆ การรับประทานอาหารมากๆ ก็จะเกิดตามมา ดังนั้น ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองกระหายน้ำ ควรดื่มน้ำบ่อยๆ และดื่มให้เพียงพอในระหว่างวัน จากการศึกษาของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Academy of sciences – NAS) และสถาบันแพทยศาสตร์ (The Institute of Medicine – IOM) สหรัฐอเมริกา ได้ให้คำแนะนำในการดื่มน้ำว่า ผู้หญิงควรดื่มวันละประมาณ 2.7 ลิตรต่อวัน หรือประมาณ 11.5 แก้ว ส่วนผู้ชายควรดื่มวันละประมาณ 3.7 ลิตรต่อวัน หรือประมาณ 15.5 แก้ว หากคุณอยากลดสัดส่วนบนใบหน้า ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน การดื่มน้ำช่วยลดอาการบวมฉุ ไม่เพียงบริเวณใบหน้า แต่กับทุกส่วนในร่างกาย เพราะกาดื่มน้ำสะอาดจะช่วยระบายของเสียในร่างกาย ไม่ทำให้ร่างกายกักเก็บของเหลวมากจนเกินไป การปล่อยให้ตัวเองกระหายน้ำมากจนเกินไปจะทำให้การเผาผลาญในร่างกายทำงานช้าลง การดื่มน้ำบ่อยๆ ช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลได้เป็นอย่างดี และสดชื่นขึ้น

2. เพลาๆ การดื่มแอลกอฮอล์

2 NO ALCOHOL

อีกเทคนิคในการแก้ปัญหาใบหน้าอ้วนกลม หรือใบหน้าฉุคือ การลดหรือเลิกการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หากคุณเป็นคนชอบดื่มไวน์ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ควรดื่มเป็นครั้งเป็นคราว ไม่ควรดื่มมาก หรือดื่มบ่อย การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากๆ ส่งผลใบการเผาผลาญไขมันในร่างกาย อีกทั้งยังเพิ่มน้ำหนักให้กับคุณอีกด้วย แอลกอฮอล์จะเข้าไปเบิร์นในร่างกาย ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งหมายความว่าในขณะที่ร่างกายพยายามกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น แอลกอฮอล์ก็เข้าไปดูดน้ำออกไปหมด ทำให้ร่างกายเกิดอาการบวมอืด หากคุณอยากลดน้ำหนักไม่ว่าจะเป็นที่ใบหน้า หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย แนะนำให้เลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นะคะ

3. รับประทานเกลือให้น้อยลง

3 SALT2

หลายคนชอบรับประทานอาหารรสชาติเค็ม เติมน้ำปลานิด เหยาะซีอิ้วหน่อย โรยเกลือลงไปบ้าง จะได้รสชาติที่เข้มข้มและถูกใจขึ้น อาหารที่ทีความเค็ม หรือเกลือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ใบหน้า และส่วนต่างๆ ของร่างกายบวมฉุ หากคุณไม่ได้เป็นคนรับประทานเก่ง ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่ชอบทานรสเค็ม สันนิษฐานได้เลยว่าความบวมอาจมาจากเกลือ หรือของเค็มๆ ที่คุณชอบรับประทาน โซเดียม (Sodium) ในเกลือมีความเกี่ยวข้องกับการกักเก็บของเหลวในร่างกาย เมื่อคุณรับประทานอาหารที่เค็มหรือมีโซเดียมสูง จะทำให้สารประกอบที่แตกตัวเป็นอะตอมในร่างกายขาดสมดุล ผลลัพธ์ที่ได้คือ ร่างกายและใบหน้าที่บวมฉุ การหลีกเลี่ยงอาหารตัดแต่ง หรือ Process Foods เช่น ไส้กรอก เบคอน หรือแฮม รวมทั้งอาหารที่มีส่วนผสมของเกลือ หรือการเหยาะน้ำปลามากๆ จะช่วยลดการนำโซเดียมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ใบหน้าและร่างกายส่วนต่างๆ ลดลงได้ค่ะ

4. เอ็กซ์เซอร์ไซส์ใบหน้า

4 FACIAL EXERCISE -FISH FACE

ใบหน้าคนเรามีมวลกล้ามเนื้อประกอบอยู่เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย การออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อบนใบหน้าสามารถช่วยให้ใบหน้าเราลดลงได้ จากการศึกษาพบว่าการออกกำลังใบหน้า 2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 8 อาทิตย์อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ใบหน้ากระชับและเล็กลง แถมยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยขึ้น การบริหารใบหน้าด้วยท่า ‘หน้าปลา’ หรือ Fish Face โดยการดูดแก้มทั้งสองข้าง ทำปากจู๋ โดยทำบ่อยๆ หลายๆ ครั้งต่อวัน มันอาจดูน่าขัน แต่มันช่วยให้หน้าคุณเล็กเรียวลงได้จริงคะ

5. ใช้อุปกรณ์นวดหน้า

5 FACE ROLLER

หากคุณอยากรู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น พร้อมลดอาการบวมฉุบนใบหน้าในขณะเดียวกัน ลองใช้อุปกรณ์นวดหน้า หรือ Facial Roller ดู คุณสามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน เพียงคุณถูไถไปรอบๆ บริเวณใบหน้า ใต้คาง ในบริเวณที่คุณรู้สึกว่าอ้วนบวม โดยการไถจากด้านในสู่ด้านนอก เช่น จากแก้มไปสู่ขมับ หรือจากแก้มลงใต้คาง จากคางลงคอ เป็นต้น ทำแบบนี้ครั้งละ 5-10 นาที ทำได้บ่อยๆ ทุกๆ วัน การนวดหน้าจะช่วยลดอาการบวม และช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีอีกด้วยค่ะ ควรเก็บอุปกรณ์นวดหน้าไว้ในตู้เย็น เมื่อนำมาใช้ จะรู้สึกสดชื่น และจี๊ดสุดๆ ไปเลยค่ะ

 

6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

6 SLEEP

การนอนหลับให้เพียงพอ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการช่วยให้ใบหน้าเรียวเล็กลง การที่คุณนอนไม่พอ นอกจากจะทำให้ใบหน้าบวม ยังสามารถสร้างปัญหาด้านสุขภาพได้หลายประการ เช่น เพิ่มระดับฮอร์โมนความเครียด หรือคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งอาจส่งผลให้มีน้ำหนักเพิ่ม ยิ่งเครียด ยิ่งรับประทาน นอกจากนั้น การนอนหลับไม่เพียงพอยังทำให้คุณเกิดความอยากรับประทานขนม ของหวาน และอาการที่ไม่มีประโยชน์ โดยปกติคนเราควรพักผ่อนนอนหลับประมาณ 7-9 ชั่วโมงทุกคืน หากคุณพักผ่อนเพียงพอ ร่างกายของคุณจะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในขณะหลับ ช่วยให้ใบหน้าของคุณยุบยอบลงจนเห็นได้ชัดค่ะ

7. ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย

7 DONUT

หากคุณมีความตั้งใจในการลดความอ้วนกลมของใบหน้า คุณควรเพลาๆ การรับประทานของหวาน ขนม อาหารที่มีส่วนผสมที่มีน้ำตาล หรืออาหารที่จะกลายเป็นน้ำตาลให้น้อยลง น้ำตาล เป็นศัตรูตัวสำคัญในการลดน้ำหนักและลดใบหน้า

ของหวาน หรืออาหารที่มีรสหวานมักมีโภชนาการต่ำ ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น ยิ่งทานของหวานยิ่งก่อให้เกิดความอยากอาหารมากขึ้น แถมยังทำให้มีไขมันสะสมในร่างกาย รวมถึงบนใบหน้าได้อีกด้วย สำหรับคนชอบของหวาน เครื่องดื่มรสชาติหวาน หรือติดหวาน เราไม่ได้บอกให้คุณเลิกทานหวานนะคะ เพียงแต่รับประทานเพียงครั้งคราว คอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเรากำลังต้องการลดน้ำหนัก หรือลวดความบวมบนใบหน้า  ดังนั้นจึงควรรับประทานเป็นครั้งเป็นคราว เฉพาะในโอกาสพิเศษๆ ก็พอค่ะ

8. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอให้มากขึ้น

8 CARDIO

คุณทราบดีว่าการออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการลดน้ำหนัก และลดใบหน้าของคุณ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หรือ Cardio Exercise คือ การออกกำลังกายที่เป็นการเสริมความแข็งแรงของระบบหัวใจ การไหลเวียนของโลหิต และปอดให้สามารถนำออกซิเจนมาใช้ได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มศักยภาพในการออกกำลังกายให้ดีขึ้น และช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ และแน่นอนช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีอีกด้วย การเต้นแอโรบิก หรือ Weight Training ช่วยเพิ่มระดับการเต้นของหัวใจ ช่วยให้น้ำหนักลด แถมช่วยให้ใบหน้าลดลงได้เร็วกว่าส่วนอื่นๆ บนร่างกายเสียอีก การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ

  • การออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ (Lower Impact Cardio Exercise) คือ การออกกำลังกายที่ส่งผลให้เกิดแรงกดหรือแรงกระแทกที่ข้อต่าง ๆ น้อย ได้แก่ การเดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ การออกกำลังกายด้วยเครื่องเดินวงรี หรือ Elliptical Trainer
  • การออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูงขึ้น (Higher Impact Cardio Exercise) คือ การออกกำลังกายที่ส่งผลให้เกิดแรงกดหรือแรงกระแทกที่ข้อต่างๆ มาก ซึ่งได้แก่ การยกน้ำหนัก การวิ่ง การเต้นแอโรบิก หรือการกระโดดเชือก เป็นต้น

โดยทั่วไปแล้ว การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควรทำประมาณ 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือวันละประมาณ 20-30 นาที แต่การเลือกประเภทการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควรเลือกให้เหมาะสมกับสุขภาพและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล หากอยากลดน้ำหนัก และลดความกลมของใบหน้า หันมาออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอให้มากขึ้นจะดีที่สุดค่ะ

ใบหน้าอ้วนกลม เป็นรูปหน้าที่ไม่พึงประสงค์ของสาวๆ ไม่ว่าจะเกิดจากความอ้วน หรือจากลักษณ์ของการใช้ชีวิตประจำวัน หรือไลฟ์สไตล์ของคุณ หากอยากลดใบหน้า ต้องมี Disciplines หรือระเบียบวินัย คุณทำได้หากฟอลโล่วเทคนิคที่ Central Inspirer นำมาฝาก สู้ๆ ค่ะ!

ขอบคุณข้อมูลจาก: si.mahidol.ac.th/teamiblends.com

Picture credit: pinterest.com