เมื่อผู้หญิงเราเริ่มตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นครรภ์แรก หรือเป็นการตั้งครรภ์ลูกคนที่เท่าไหร่ มีเรื่องมากมายที่คุณแม่คนใหม่ต้องระวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเคลื่อนไหว การเดินเหิน อาหารการกิน การออกกำลังกาย และอีกมากมาย ไลฟ์สไตล์ของคุณต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง นั่นรวมถึงการปรนนิบัติผิวที่เมื่อก่อนตอนยังไม่ตั้งครรภ์ ผู้หญิงเราสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้ทุกอย่างตามที่ต้องการเพื่อให้มีผิวที่สวยและเรียบเนียน แต่วันนี้เมื่อคุณตั้งครรภ์ ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง Central Inspirer จึงอยากชวนว่าที่คุณแม่มาดูกันว่า การตั้งครรภ์ส่งผลและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผิวว่าคุณแม่อย่างไรบ้าง มีส่วนผสมอะไรในสกินแคร์ที่คุณควรหลีกเลี่ยงในช่วงตั้งครรภ์ และหากคุณอยากดูโกลว์สุดๆ ในช่วงตั้งครรภ์ คุณควรดูแลและปรนนิบัติผิวอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ
การตั้งครรภ์ส่งผลต่อผิวของว่าที่คุณแม่คนใหม่อย่างไร
เมื่อคุณตั้งครรภ์ ร่างกายและผิวพรรณของคุณจะเกิดความเปลี่ยนแปลงจนสามารถสังเกตเห็นได้ โดยเฉพาะเรื่องผิว ไม่ว่าคุณจะมีผิวประเภทใด ปํญหาที่เกี่ยวกับผิวอาจเกิดขึ้นได้ อาทิ การเกิดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวแห้ง หรือผิวแตกลาย รวมทั้งหากคุณมีปัญหาเรื่องผิวพรรณด้านอื่นๆ ปัญหาเหล่านั้นอาจหายไปจนน่าแปลกใจ หรือในทางตรงกันข้าม ปัญหาผิวอาจแย่ลงไปอีก ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกใจทำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับผิวคุณในช่วงนี้
ถึงแม้ว่าผู้หญิงเรากำลังก้าวข้าสู่โหมดของความเป็นแม่ แต่เรื่องการดูแลผิว ดูแลตัวเองแล้ว ผู้หญิงทุกคนขาดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงตั้งครรภ์ คุณต้องระวังและเลือกใช้สกินแคร์ หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์และตัวคุณ มีส่วนผสมอะไรในสกินแคร์ที่คุณควรหลีกเลี่ยง มาดูกันเลยค่ะ
7 ส่วนผสมในสกินแคร์ที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงตั้งครรภ์
ผิวพรรณของคนเราเป็นอวัยวะที่มีความใหญ่ที่สุดในร่างกาย เป็นอวัยวะที่คอยดูดซับผลิตภัณฑ์สกินแคร์ต่างๆ ที่เราสรรหามาประทินผิว ในช่วงตั้งครรภ์คุณควรเรียนรู้ว่าส่วนผสมในสกินแคร์ประเภทไหนที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของคุณและลูกน้อยในครรภ์
1. น้ำหอม (Fragrance)
อันที่จริง น้ำหอมไม่ได้มีจุดประสงค์ในการบำรุงผิว แต่น้ำหอมช่วยให้ตัวคุณมีกลิ่นหอมติดทนอยู่อย่างยาวนาน ใครๆ ก็ชอบใส่น้ำหอมกันทั้งนั้น ส่วนผสมของน้ำหอมส่วนมามีทั้งที่ผลิตจากธรรมชาติและสารเคมีสังเคราะห์ เช่น พาราเบน (Parabens) ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) เบนซีน (Benzene) การบูร (Camphor) และคลอรีน (Chlorine) เป็นต้น น้ำหอมจึงเป็นสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงในช่วงตั้งครรภ์ รวมทั้งหลังจากการให้กำเนิดลูกด้วยซ้ำ!
2. ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde)
ฟอร์มาลดีไฮด์เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีตามธรรมชาติ ที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพมากมาย เช่น ทำให้เกิดการไอ ปัญหาระบบทางเดินหายใจ และอีกมากมาย ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ฟอร์มาลดีไฮด์ ถูกห้ามนำมาใช้เพื่อเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวต่างๆ เช่น สีทาเล็บ ผลิตภัณฑ์ยืดผม เจลใส่ผล ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ และอายชาโดว์ เป็นต้น ดังนั้นช่วงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของฟอร์มาลดีไฮด์จะดีที่สุดค่ะ
3. ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)
ไฮโดรควิโนน เป็นยาทาผิวหนังประเภทหนึ่งที่ช่วยยับยั้งกระบวนการเปลี่ยนแปลงของสีผิว มักนำมาใช้รักษาภาวะผิวหนังสร้างเม็ดสีมากผิดปกติจนกลายเป็นรอยดำ ฝ้า หรือกระ หากในช่วงที่คุณตั้งครรภ์ และพบว่าเกิดปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำควรอดทน ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาปัญหาผิวเหล่านี้ ควรรอจนกว่าจะคลอดลูกแล้ว เพราะตอนนี้ยังไม่มีการศึกษาว่าไฮโดรควิโนนจะส่งผลกระทบกับหรือเป็นอันตรายกับลูกในครรภ์หรือไม่เมื่อดูดซึมเข้าผิวพรรณของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ดังนั้นจึงไม่ควรเสี่ยง ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ
4. ทาเลท (Phthalates)
ทาเลท เป็นสารที่พบมากในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวต่างๆ เป็นสารที่รบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ หรือ Endocrine Disruption ทาเลท ถูกใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นในการทำให้สกินแคร์มีความอ่อนนุ่มขึ้น ไดเอทิลฟทาเลต (Diethyl Phthalate) คือ ทาเลทที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอางและสกินแคร์ทั่วไป สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา หรือ American Academy of Pediatrics แนะนำให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารตัวนี้ในระหว่างตั้งครรภ์ รวมทั้งไม่แนะนำให้กับใช้กับทารกอีกด้วย
5. ครีมกันแดดที่ผลิตจากสารเคมี (Chemical Sunscreens)
เป็นที่ทราบกันดีว่าครีมกันแดดนั้นมีความสำคัญ ต้องใช้เป็นประจำทุกวันและขาดไม่ได้ แต่หากคุณกำลังตั้งครรภ์ ควรเลือกครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี อาทิ ออกซีเบนโซน (oxybenzone) และเอโวเบนโซน (Avobenzone) ที่เป็นสารที่ใช้ในการกรองรังสียูวี ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) หรือไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) ที่ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองของผิวหนังแทน
6. เรตินอยด์ (Retinoids)
เรตินอยด์ เป็นสารที่ช่วยรักษาสิว รวมทั้งช่วยให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ขึ้น สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ เรตินอยด์เป็นสารต้องห้ามที่อาจสร้างความบกพร่อง เกิดความผิดปกติ หรืออาจเป็นพิษกับทารกนครรภ์ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ในช่วงตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม เรตินอยด์ อาจมาในชื่อต่างๆ เช่น กรดเรติโนอิก (Retinoic Acid) เรตินิลพัล มิเทต(Retinyl Palmitate) เรตินอลดิไฮด์(Retinaldehyde) อะดาพาลีน (Adapalene) เตรทติโนอิน (Tretinoin) ทาซาโรทีน (Tazarotene) และไอโซเตรทติโนอิน (Isotretinoin) ควรจำชื่อต้องห้ามเหล่านี้เอาไว้หากคุณต้องการออกไปหาสกินแคร์มาใช้ระหว่างตั้งครรภ์นะคะ
7. เตตระไซคลิน (Tetracycline)
เตตระไซคลิน มักเป็นสารที่ช่วยรักษาสิว แต่ไม่ควรใช้ในช่วงตั้งครรภ์ เพราะจะก่อให้เกิดความผิดปกติของรกในครรภ์ อีกทั้งยังอาจทำให้การเจริญเติบโตของกระดูกทารกผิดปกติ สารตัวนี้ไม่ควรใช้ในช่วงให้นมบุตรเช่นกัน เพราะสามารถส่งต่อสู่ทารกผ่านน้ำนมได้
เมื่อทราบแล้วว่าส่วนผสมในสกินแคร์ชนิดไหนควรหลีกเลี่ยงแล้ว มาดูขั้นตอนปรนนิบัติผิวที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์กันดีกว่า
5 ขั้นตอนปรนนิบัติผิวอย่างไรให้ปลอดภัยสำหรับว่าที่คุณแม่คนใหม่
มันอาจทำให้ว่าที่คุณแม่รู้สึกเครียดนิดๆ ว่าอะไรๆ ก็เหมือนจะใช้ไม่ได้ในช่วงตั้งครรภ์ แล้วคุณจะใช้สกินแคร์อะไรได้บ้างในช่วงที่ตั้งครรภ์แบบนี้ แนะนำให้คุณแม่รู้จักกับ EWG Skin Deep® เว็บไซส์ที่มีดาต้าเบสของส่วนผสมในสกินแคร์และเครื่องสำอางกว่า 90,000 ชนิด รวมทั้งสกินแคร์แบรนด์ที่คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าอะไรปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ตอนนี้มาดูกันว่า 5 ขั้นตอนปรนนิบัติผิวสำหรับว่าที่คุณแม่คนใหม่มีอะไรบ้างค่ะ
Step 1# ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยน และปลอดภัย
คลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคนั้นเหมาะมากสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เลือกใช้คลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของมัทฉะชาเขียว ว่านหางจระเข้ แอปปิ้ล ขมิ้นชัน ข้าว หรือสาหร่ายเคลป์ ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาตินั้นปลอดภัยสำหรับคุณแม่ค่ะ
Step 2# ใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ
เซรั่มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น Citric Acid หรือวิตามินซีเข้มข้นนั้นปลอดภัยสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเซรั่มเหล่านี้มักมีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวคุณแม่อิ่มน้ำ และนุ่มเนียนได้อย่างยาวนาน แถมไม่เป็นอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์ค่ะ
Step 3# ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว
มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ก็เหมือนสกินแคร์ตัวอื่นคือควรมีส่วนผสมจากธรรมชาติ หรืออร์แกนิค เช่น ส่วนผสมจากชาเขียวมัทฉะ อะโวคาโด หรือน้ำมันสควาเลนจากมะกอก ที่ช่วยให้ผิวว่าที่คุณแม่ชุ่มชื้น และไม่มันจนเกิดไป
Step 4# ต้องไม่ลืมครีมกันแดด
การทาครีมกันแดด เป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวพรรณซึ่งต้องปรนนิบัติผิวเป็นประจำทุกวัน แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรเลือกครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี เช่น ออกซีเบนโซน (oxybenzone) และเอโวเบนโซน (Avobenzone) ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่ช่วยป้องกันรังสียูวีที่มีซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) หรือไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) ที่ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองของผิวหนังแทน
Step 5# ทาครีมบำรุงผิวป้องกันผิวแตกลาย
สำหรับคนท้องหลายคน ปัญหาผิวแตกลายเป็นปัญหาที่น่ากังวลใจ ดังนั้น การมีครีมทาผิวที่ช่วยป้องกันและบรรเทาผิวแตกลายจึงเป็นสิ่งที่คุณแม่พลาดไม่ได้นะคะ
สำหรับผู้หญิงทุกคนที่เตรียมความพร้อมในการเป็นคุณแม่คนใหม่ ความเป็นแม่ทำให้คุณสามารถเสียสละทุกอย่างเพื่อลูกน้อยได้ ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกน้อยเกิดมาสมบูรณ์และแข็งแรง ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาสกินแคร์ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณระหว่างตั้งครรภ์ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยทั้งกับตัวคุณและลูกน้อย หรือไม่ก็อดใจสักหน่อย เพียง 9 เดือนเท่านั้น คุณก็จะกลับมาเป็นคุณแม่คนสวยได้ พร้อมกับการลูกน้อยน่ารักที่เป็นแก้วตาดวงใจของคุณ นำความสุขและความสมบูรณ์ของครอบครัวมาสู่คุณค่ะ Happy Parenting นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: teamiblends.com /trueid.net
Picture credit: pinterest.com