7-things-you-should-check-before-buy-coffee-machine

7 สิ่งที่คุณต้องเช็ก!! ก่อนเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟ

สำหรับคอกาแฟ หรือผู้ที่ต้องการเปิดธุรกิจร้านกาแฟแน่นอนว่าจะขาดไอเท็มอย่างเครื่องชงกาแฟไปไม่ได้เลย แต่ปัญหาก็คือเครื่องชงกาแฟเหล่านี้มาราคาที่สูงลิ่ว ดังนั้น เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด มาดูกันดีกว่าว่าคุณต้องเช็กอะไรก่อน โดยมาดามได้หามาให้คุณแล้วถึง 7 สิ่งด้วยกัน

1. เลือกให้ถูกกับลักษณะการใช้งาน

 

คุณไม่จำเป็นต้องเลือกเครื่องชงกาแฟที่ดีที่สุดเสมอ เพราะราคาที่แพงอาจไม่ได้ตอบโจทย์หรือเกินความจำเป็นมากเกินไป ให้ลองถามตัวเองว่านำไปใช้งานไหนระหว่าง “ชงดื่มเอง” หรือ “ชงเพื่อขาย” ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

  • ชงดื่มเอง – หากว่าคุณซื้อเพื่อมาชงดื่มเอง ให้เลือกเครื่องชงกาแฟอัติโนมัติที่ใช้งานได้ง่าย ไม่ว่าใครก็สั่งใช้งานได้ทันที เพื่อให้รสชาติคงที่ ไม่ต้องหัวเสียกับรสชาติที่เปลี่ยนไป
  • ชงเพื่อขาย – หากเลือกเครื่องชงกาแฟไปใช้ในการขาย ขอแนะนำเป็นแบบแมนน่วล (manual) จะดีกว่า เพราะคุณสามารถปรุงแต่งรสกาแฟได้อย่างอิสระ

2. มีที่ตีฟองนม (Milk Frothers)

 

เครื่องตีฟองนมนั้นสำคัญมากๆ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับกาแฟ และให้สัมผัสที่แตกต่าง หากใช้มือตีก็สามารถทำได้ แต่ไม่ได้ความละเอียดหรือนุ่มเท่ากับการใช้ที่ตีฟองน้ำ เพราะฉะนั้น ก่อนเลือกซื้อเล็งๆ เครื่องที่มีตีฟองน้ำมาด้วยก็ดี ถ้าหากไม่มีก็ควรจะซื้อเพิ่มด้วย สำคัญมากๆ

3. การควบคุมอุณหภูมิของน้ำที่มั่นคงแม่นยำ

 

สิ่งนี้สำคัญมากๆ เพราะอย่างที่ทราบกันดีเพียงอุณหถูมิลดต่ำลงไปเพียงนิดเดียวก็สามารถทำให้กาแฟที่ชงออกมานั้น มีรสชาติที่ผิดแปลกไปจากเดิมแล้ว โดยอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการชงกาแฟคือราวๆ 91-96 องศาเซลเซียส หากร้อนกว่านี้จะทำให้กาแฟขมเกินไป ถ้าหากอุณหภูมิต่ำจนเกินไปจะทำให้กาแฟมีรสชาติอ่อนจนเกินไป ดังนั้น ระบบควบคุมอุณหภูมิของน้ำที่ดีต้องบวกลบแล้วไม่เกิน 1 องศาเซลเซียส ตลอดการชง

4. มีที่บดกาแฟในตัว

 

ข้อนี้อาจจะไม่สำคัญเท่าไหร่นัก แต่สำหรับคนที่ต้องการเซฟงบประมาณหน่อย ก็ให้เลือกเครื่องชงกาแฟที่มีเครื่องบดกาแฟในตัวไปเลยก็จะช่วยได้มาก หรือเลือกเครื่องชงกาแฟที่เขาพ่วงแถมเครื่องบดเมล็ดกาแฟมาให้ด้วยเลยจะดีมากๆ

5. ทำความสะอาดและดูแลรักษาได้ง่าย

 

นอกจากคุณสมบัติข้างต้นที่คุณต้องตรวจสอบ สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องดูนั่นเครื่องชงกาแฟกาแฟที่เลือกมานั้น ในด้านการทำความสะอาดและการดูแลรักษานั้นทำได้ง่ายไหม ในแง่ของการทำความสะอาดนั้น ก็ควรทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ส่วนทางด้านการดูแลรักษา คุณควรถามแบรนด์นั้นๆ ก่อนทุกครั้งว่าหลังจากหมดการรับประกันแล้ว หากต้องตามช่างมา หรืออะไหล่นั้นมีราคาเท่าไหร่ หากมีราคาสูงจนเกินไปก็ไม่ควรเลือกเพราะไม่คุ้ม โดยเฉพาะกับผู้ที่ซื้อมาชงขาย

6. ทนทาน ใช้งานได้นาน มีอะไหล่สำรอง

 

สิ่งนี้สำคัญมากๆ เช่นกัน อย่าเลือกเครื่องชงกาแฟเพียงเพราะมีราคาดีเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะดูต่อไปว่า มีความทนทานแค่ไหน หรือถ้าเกิดเสียขึ้นมาจะมีอะไหล่ไว้รองรับแค่ไหน เพราะบางรุ่นนั้น อาจจะตกรุ่นไปแล้ว ทำให้ไม่มีอะไหล่แบบนี้อย่าเลือกมา เพราะเกิดเสียขึ้นมาแล้ว ต้องทิ้งทันที

7. มีเมล็ดกาแฟพร้อมส่งเสมอ

 

ข้อสุดท้ายนี้จำเป็นเฉพาะกับคนที่นำเครื่องชงกาแฟมาใช้การค้าขาย ให้ลองถามดูก่อนเลยว่ามีเมล็ดกาแฟพร้อมส่งให้เราตลอดเลยไหม โดยข้อดีที่แบรนด์มีเมล็ดกาแฟฟส่งให้เราตลอดนั้น จะช่วยให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการหาเมล็ดกาแฟเอง แถมยังเป็นเมล็ดที่เข้ากับเครื่องชงนั้นๆ ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย

ช้อปเครื่องชงกาแฟตัวท็อปจาก Central App

Best-coffee-makers-of-2023

“คลิ้ก” เพื่อไปเลือกเครื่องชงกาแฟ

Inspirer_Button_3_aug_shop_now_design2 (1)

หากใครอยากเป็นเจ้าของเครื่องชงกาแฟคุณภาพสูง สามารถไปเลือกช้อปกันต่อได้เลย ทาง Central Inspirer ได้คัดสรรมาให้คุณแล้ว


แล้วนี่ก็คือทั้งหมดที่คุณต้องเช็กก่อนเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟมาใช้ สำหรับใครที่อยากไปช้อปปิ้งกันต่อ สามารถกลับไปช้อปกันได้เลยที่ Central App แหล่งรวมสินค้าพรีเมี่ยมที่มีให้คุณเลือกอย่างหลากหลาย