บทความนี้อาจไม่เหมาะกับสาวรุ่น เพราะวันนี้ Central Inspirer อยากชวนผู้หญิงที่อยู่ในช่วงกลาง หรือปลายของอายุ 40 ปีมาพูดคุยกันเกี่ยวกับอาการ “วัยทอง” หากคุณผู้หญิงท่านใดที่คิดว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาของฉัน ก็ข้ามไปได้นะคะ หรือใครที่คิดว่าบทความนี้อาจมีประโยชน์ และได้ความรู้ก็มาดูกันเลยค่ะ
วัยทองคืออะไร
“วัยทอง” หรือ Menopause เป็นสภาวะของสตรีที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน โดยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 48-52 ปี หรือมากกว่าเป็นช่วงเวลาที่ก้ำกึ่งระหว่างวัยเจริญพันธุ์และวัยผู้สูงอายุ โดยรังไข่จะหยุดสร้างฮอร์โมนเพศหญิงที่มีชื่อว่า เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ส่งผลให้ไม่มีประจำเดือน ถ้าประจำเดือนขาดหายไปครบ 1 ปี แสดงว่ารังไข่ได้หยุดทำงานแล้ว และถือว่าได้เข้าสู่วัยทองอย่างสมบูรณ์ การหมดประจำเดือนส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาตามมา แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
1. ระยะก่อนหมดประจำเดือน (Perimenopause)
เป็นระยะเริ่มของการหมดประจำเดือนทำให้สตรีเริ่มมีประจำเดือนมาผิดปกติ ร่วมกับมีอาการทางร่างกาย เช่น มีความรู้สึกร้อนวูบวาบ มึนศีรษะ อ่อนเพลีย อารมณ์จะแปรปรวนง่าย ซึ่งระยะนี้จะเกิดประมาณ 2-3 ปีก่อนการหมดประจำเดือนอย่างถาวร
2. ระยะหมดประจำเดือน (Menopause)
เป็นระยะเวลาที่สตรีเริ่มหมดประจำเดือน โดยเริ่มตั้งแต่การหมดประจำเดือนมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี
3. ระยะหลังหมดประจำเดือน (Postmenopause)
เป็นระยะที่เริ่มตั้งแต่หลังการหมดประจำเดือนมาแล้ว 1 ปี ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้กับร่างกาย เช่น ช่องคลอดเริ่มตีบแคบ หรือมีอาการกระดูกพรุน เป็นต้น
อาการของ “วัยทอง”
เวลาผู้หญิงมีอารมณ์ฉุนเฉียว โกรธง่าย หรือมีอาการไม่สบายเนื้อสบายตัว รู้สึกร้อนวูบวาบ บ่อยครั้งจะโดนล้อว่า “นี่กำลังวัยทองรึเปล่าเนี่ย?” อาการเหล่านี้นับเป็นส่วนหนึ่ง แต่อาการของผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองมีอีกมากามายดังต่อไปนี้
1. อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดไม่มีสาเหตุ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
บ่อยครั้งที่เรามักเห็นคนที่ก้าวเข้าสู่วัยทองมีความเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ที่รวดเร็ว อารมณ์ขึ้นลงเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์หงุดหงิด น้อยใจ โกรธ โมโหง่ายแบบไม่มีสาเหตุ ส่งผลให้ควบคุมอารมณ์ได้ยาก บางรายอาจเครียดจนเกิดเป็นอาการซึมเศร้าตามมา ซึ่งอาการดังกล่าวนั่นเป็นผลมาจากฮอร์โมนที่ลดลง
2. รู้สึกร้อนวูบวาบตามร่างกาย
อาการร้อนวูบวาบ หรือ Hot Flush เป็นอาการที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะบริเวณลำตัวส่วนบน เช่น บริเวณหน้า คอ และหน้าอก มักเกิดอาการนานประมาณ 1-5 นาที ในบางรายอาจมีอาการผิวหนังแดง หน้าแดง หรือคอแดง ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น เหงื่อออก หนาวสั่น วิตกกังวล หงุดหงิด เครียดหรือใจสั่นได้ อาการเหล่านี้อาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน และการนอนหลับยากขึ้นได้
3. นอนหลับยาก นอนไม่ค่อยหลับ หรือนอนหลับไม่สนิท
อาการนอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิทเป็นอาการที่เกิดได้บ่อยในวัยทอง ซึ่งเกิดจากความวิตกกังวล ภาวะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป หรืออาจเป็นเพราะอาการร้อนวูบวาบ จึงทำให้รู้สึกว่านอนหลับยาก หรือมักหลับๆ ตื่นๆ กลางดึกนั่นเอง นอกจากนี้การหมดประจำเดือนยังทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกา และสมอง ทำให้อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร และไม่มีแรงซึ่งเป็นผลจากการนอนไม่หลับ หรือการนอนหลับไม่เต็มที่
4. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรือปวดตามกระดูกและข้อ
อีกหนึ่งอาการที่พบเจอได้บ่อยคือ การปวดเมื่อยตามตัว กล้ามเนื้อ ปวดตามกระดูกและข้อ ซึ่งเกิดจากการที่กระดูกเปราะบางลง ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายและเจ็บตามข้อ ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย
5. รูปร่างเปลี่ยนแปลงไป
หากสังเกตดีๆ จะพบว่าผู้ที่อยู่ในช่วงวัยทองจะมีรูปร่างที่เปลี่ยนไป มวลกล้ามเนื้อลดลง เอวเริ่มหายไป มีไขมันเข้ามาแทนที่กล้ามเนื้อส่วนต่างๆมากขึ้น กระบวนการเผาผลาญในร่างกายทำงานได้น้อยลง เกิดกระสะสมของไขมันส่วนเกินทำให้อ้วนง่าย ก่อให้เกิดโรคไขมันในเลือดสูงเพิ่ม โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันมากขึ้น เนื่องจากจากการขาดเอสโตรเจน (Estrogen) เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนทำหน้าที่สำคัญในการลดไขมันไม่ดี( LDL) อีกทั้งยังก่อให้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณแห้งกร้าน เหี่ยวย่น ขาดความชุ่มชื้น และความเต่งตึง
6. ปัญหาของระบบทางเดินปัสสาวะ
ผู้ที่อยู่ในสภาวะวัยทองอาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ส่วนใหญ่เกิดจากการหย่อนยานของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน พบบ่อยเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
7. มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์
หนึ่งในผลกระทบของการหมดประจำเดือนคือ อาจก่อให้เกิดอาการความจำเสื่อม หลงลืมง่ายซึ่งมักเกิดมักเกิดช่วงอายุ 45 ปี ขึ้นไป ความจำจะค่อยๆ ลดลงเป็นผลมาจากเซลล์สมองส่วนความจำเสื่อมตัวลงเรื่อย รวมทั้งเกิดภาวะซึมเศร้า อารมณ์หงุดหงิด และมีความวิตกกังวลง่าย
ไม่ต้องวิตกกังวลหากตัวคุณเอง หรือคนใกล้ชิดกำลังก้าวเข้าสู่วัยทอง อาการที่กล่าวไปข้างต้นมีอาการรุนแรงมากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละคน และอาจไม่เกิดกับทุกคน หากคุณเป็นคนที่ใส่ใจดูแลตัวเอง ออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ และเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ คุณอาจจะได้สัมผัสอาการของวัยทองอย่างไม่หนักหนาสาหัสเท่าไหร่ จะเป็นไปตามวัย และตามธรรมชาติ ไม่มีอะไรที่น่าวิตกกังวลใจ อย่างไรก็ตาม มีอาหารหลายประเภทที่ช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้ มาดูกันเลยค่ะ
อาหารที่ช่วยบำบัดฮอร์โมนเพศสำหรับคนวัยทอง
1. ผลไม้สด
เป็นอาหารที่มีไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย ลดอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน ช่วยต่อรต้านอนุมูลอิสระ และสามารถควบคุมระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ด้วย
2. นม
นม เป็นอาหารประเภทที่มีโปรตีนสูง ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก สามารถป้องกันโรคกระดูกพรุนทำให้กระดูกแข็งแรง การดื่มนมทุกวันยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย
3. ดาร์กช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตแบบขม หรือ ดาร์กช็อกโกแลตมีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) รวมทั้งธาตุเหล็ก แคลเซียม สังกะสี และทองแดงสูง ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยลดความเครียด ช่วยเพิ่มฮอร์โมนความสุขออกมาทำให้อารมณ์ดี ผิวพรรณเปล่งปลั่งไร้ริ้วรอย
4. ถั่วเหลือง
เป็นพืชในตระกูลถั่วที่มีไอโซฟลาโวนสูง สามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก และลดอาการร้อนวูบวาบที่เกิดจากภาวะหมดประจำเดือนในวัยทองได้
5. เห็ดหูหนูขาว
เห็ด เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิด มีสารคอลลาเจน กรดอะมิโน และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันอาการต่างๆ ของวับทองได้
6. ข้าวกล้อง
ข้าวกล้องมีคาร์โบไฮเดรตสูง ช่วยกระตุ้นสารเซโรโทนิน (Serotonin) ของคาร์โบไฮเดรต ทำให้ร่างกายหลั่งสารเซโรโทนินได้มากขึ้น เพื่อทำให้อารมณ์ดี ไม่หงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่แปรปรวน และสามารถช่วยลดความเครียดได้
7. เม็ดบัว
เม็ดบัวที่หลายคนชอบรับประทานมีวิตามินซีสูง มีฟอสฟอรัส เหล็ก และคาร์โบไฮเดรต มีสรรพคุณเด่นช่วยในเรื่องของการบำรุงร่างกาย บำรุงเลือดสำหรับสตรีที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยเพิ่มพลังลมปราณ ทำให้เลือดไหลเวียนดี
8. เก๋ากี้
เป็นสมุนไพรจีนที่ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันทำให้ไม่อ้วนง่าย ช่วยเสริมฮอร์โมนเพศหญิง ช่วยบำรุงเลือด ปรับระบบประจำเดือน ช่วยลดอาการช่องคลอดแห้ง ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ นอนไม่หลับในผู้หญิงวัยทอง ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
จะว่าไปแล้วอาการของวัยทองอาจเกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ถึงแม้ว่าผู้ชายจะไม่ได้มีประจำเดือน และไม่มีอาการที่เด่นชัดเท่าผู้หญิง แต่เมื่อเมื่อผู้ชายมีอายุ 40 ปี ขึ้นไป ฮอร์โมนเพศชาย หรือเทสโทสเตอโรน (Testosterone) จะลดลง ซึ่งจะส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย ทั้งการสร้างกล้ามเนื้อ ระบบเผาผลาญไขมัน และความแข็งแรงของโครงสร้างกระดูก รวมไปถึงระบบสืบพันธุ์ ทำให้เกิดวัยทองในผู้ชาย
หากคุณพบว่าตัวเอง หรือคนที่บ้านมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เอาใจยาก นอนไม่ค่อยหลับ หงุดหงิดง่าย หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ อย่าาไปถือสาอะไร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากวัยทอง ควรสังเกตให้ดีเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอาการเหล่านี้ วัยทองไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพียงให้เรารู้ตัวล่วงหน้าและรับมือกับมันให้ดี ชีวิตก็จะมีแต่ความสุข และความแจ่มใสเหมือนเดิมค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: sikarin.com / phyathai.com / amprohealth.com
Picture credit: pinterest.com / bestfreshfruits.com