Get to Know! เกลือหิมาลัย มีประโยชน์อย่างไร ทำไมถึงยอดนิยม?

ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา รายการทำอาหารทั้งไทยและเทศแบบ Cooking Show ที่ต่างมีการโชว์ทำอาหาร หรือมีการแข่งขันต่างๆ ได้จุดประกายการทำอาหารให้คนลุกขึ้นมาลองทำอาหารแปลกๆ ใหม่ๆ ไปทั่วโลก มีวัตถุดิบในการอาหารอย่างหนึ่งที่เชฟคนดังหลายคนนิยมใช้นั่นคือ เกลือหิมาลัย หรือเกลือสีชมพูที่เข้ามาปฏิวัติการใช้เกลือของคนไทย และผู้คนทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำอาหาร หรือรักษาสุขภาพ  เพราะเกลือหิมาลัยนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเกลือหิมาลัยกัน คุณประโยชน์ของเกลือหิมาลัยนั้นดีต่อร่างกายอย่างไร

“เกลือหิมาลัย” คืออะไร?

HIMALAYA SALT 1

เกลือหิมาลัย หรือ Himalayan Salt หรือ Himalayan Crystal Salt เป็นชนิดของเกลือที่มีสีชมพู มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่เทือกเขาหิมาลัยในประเทศปากีสถาน แหล่งที่พบเกลือชนิดนี้จะอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินกว่า 5,000 ฟุต เกลือหิมาลัย เป็นเกลือที่มีสีชมพูเพราะมีไอเอิร์นออกไซด์ (Iron Oxide) เป็นส่วนประกอบ เกลือหิมาลัยจัดว่าเป็นเกลือบริสุทธิ์ เชื่อกันว่าเกิดจากการระเหยและตกผลึกของน้ำทะเลยุคโบราณกว่า 250 ล้านปีก่อน ผ่านการสกัดด้วยมือและไม่มีการเติมสารเคมีหรือสารปรุงแต่งใดๆ จนกลายมาเป็นผลึกเกลือสีชมพูที่มีแร่ธาตุถึง 84 ชนิด อาทิ แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก เป็นต้น เกลือหิมาลัย เป็นเกลือธรรมชาติและมีแร่ธาตุมากกว่าเกลือที่ใช้กันอยู่ทั่วไป นอกจากจะใช้ประกอบอาหารแล้ว เกลือหิมาลัยยังนิยมนำมาทำเป็นโคมไฟ หรือสร้างเป็นถ้ำเกลือหิมาลัยเพื่อช่วยขจัดเชื้อโรคในอากาศ ทำให้ปอดมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

ทำไมเกลือหิมาลัยถึงมีสีชมพู?

หลายคนที่ใช้เกลือหิมาลัยคงสงสัยว่าทำไมเกลือหิมาลัยถึงเป็นสีชมพู หรือ Pink Salt สาเหตุที่เกลือหิมาลัยเป็นสีชมพูนั้น เป็นเพราะว่าเกลือหิมาลัยมีแร่ธาตุมากมายที่สะสมอยู่ในเกลือ ส่งผลให้เกลือหิมาลัยกลายเป็นสีชมพู โดยมีการค้นพบว่าเกลือหิมาลัยมีความแตกต่างจากเกลือที่วางขายตามท้องตลาด นอกเหนือจากสีที่แตกต่างกันแล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์อย่างมหาศาล มาดูกันว่าคุณประโยชน์ของเกลือหิมาลัยมีอะไรบ้าง

คุณประโยชน์ของเกลือหิมาลัย

1. ช่วยบำรุงผิว และปรับสภาพผิว

1 SCRUB

เนื่องจากเกลือหิมาลัยมีแร่ธาตุประกอบอยู่กว่า 84 ชนิด จึงทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีกว่าเกลือชนิดอื่น การนำเกลือหิมาลัยมาขัดผิวจะทำให้ผิวเรียบเนียนและชุ่มชื้นขึ้น สามารถขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วได้ดี จึงมักนิยมนำเกลือหิมาลัยมาขัดตัวและมาส์กหน้า หรือสปาผิว ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ผิวเรียบเนียนสวย นุ่มน่าสัมผัส อีกทั้งยังช่วยกระชับผิว ลดรูขุมขนกว้างและกระชับรูขุมขน ช่วยปรับสภาพผิวเพื่อให้ใบหน้าชุ่มชื้น สามารถขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายและผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้ เหมาะกับการนำมาบำรุงผิวหน้า

2. ช่วยลดอาการผิวมัน และสิว 

2 OILY SKIN

โดยปกติสกินแคร์ส่วนใหญ่จะมีความเป็นด่าง อาจทำให้ผิวหน้าของบางคนที่มีความเป็นกรดเล็กน้อยเสียสมดุล ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหน้ามัน การอักเสบของผิว เกิดสิว และผดผื่นตามมา เกลือหิมาลัยมีคุณสมบัติพิเศษช่วยปรับสมดุลความเป็นกรดและด่าง หรือ pH Balance จึงสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยลดน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้า ลดการเกิดสิว และผดผื่นได้ นอกจากนั้นยังช่วยปรับสมดุลค่าความเป็นกรดด่างในเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์สมองได้อีกด้วย

3. ช่วยดีท็อกซ์เส้นผม

3 DETOX HAIR

เกลือหิมาลัยมีคุณสมบัติมากมายรวมถึงการบำรุงหนังศีรษะ ลดการเกิดของรังแค ทำให้เส้นผมสวยนุ่มสลวย และยังช่วยปรับสมดุลให้หนังศีรษะอีกด้วย หลายคนที่มีปัญหาเรื่องเส้นผมลองใช้เกลือสีชมพูช่วย Detox เส้นผมกันดูนะคะ

ผลิตภัณฑ์ดีท็อกซ์เส้นผมคุณภาพ

THINK NATURE 1THINK NATURE หิมาลายา พิงค์ ซอลต์ แชมพู คูล ซิตรัส อโรมา ขนาด 235 กรัม

ราคา 949 บาท

THINK NATURE 2THINK NATURE หิมาลายา พิงค์ซอลต์ ทรีตเมนท์ คูล ซิตรัส อโรมา ขนาด 235 กรัม

ราคา 949 บาท  

4. ช่วยลดกลิ่นปาก 

4 TEETH & MOUTH

มนุษย์นำเกลือหิมาลัยมาใช้ในการทำความสะอาดฟันตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะเกลือชนิดนี้มีคุณสมบัติในการลดกลิ่นปากลงได้ ช่วยรักษาแผลในปากและแผลร้อนในได้ นอกจากนี้เกลือยังช่วยลดอาการเสียวฟันและปวดฟันได้ดีอีกด้วย

5. ช่วยฟิ้นฟูและบำบัดร่างกาย

5 HAPPY

ร่างกายของมนุษย์ผ่านการใช้งานทุกวัน ทำให้ร่ายการของเราต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ ต้องการแร่ธาตุที่เสียไปกับการใช้งาน เกลือหิมาลัยนับเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ดีที่สุด เพราะเกลือชนิดนี้มีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ ช่วยบำบัดความเครียด ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย หายจากความเมื่อยล้าทำให้ร่างกายคุณสดชื่น หายจากอาการนอนไม่หลับ ไมเกรน ออฟฟิศซินโดรมจะดีขึ้นกว่าเดิม 

ออยล์จากเกลือหิมาลัยเพื่อความผ่อนคลาย

DIVANA OILDIVANA ออยล์ Himalayan Salt Oil ขนาด 10 มล.

ราคา 590 บาท 

6. เป็นยาปฏิชีวนะธรรมชาติ 

6 MEDICINE

การที่เกลือหิมาลัยเต็มไปด้วยแร่ธาคุถึง 84 ชนิดจึงทำให้เกลือหิมาลัยมีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อไวรัส จุลินทรีย์ตัวร้าย เชื้อรา และเชื้อโรคอื่นๆ ได้มากมาย

7. ช่วยปรับสมดุล และรักษาระดับของเหลวในร่างกาย

7 BALANCE

เนื่องจากเกลือหิมาลัยเป็นเกลือที่มีแร่ธาตุมากที่สุดในบรรดาเกลือทั้งหมด จึงช่วยในเรื่องของการปรับระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันแข็งแรง ช่วยชะลอวัย ช่วยกระตุ้นการทำงานของกระแสไฟฟ้าภายในเซลล์ในร่างกาย แถมยังช่วยกระตุ้นการดูดซึมอาหารในลำไส้เล็ก อีกทั้งยังช่วยรักษา สร้างความสมดุลของระดับของเหลวในร่างกาย ควบคุมน้ำในและนอกเซลล์ให้สมดุล ร่างกายจึงไม่บวมน้ำ 

8. ช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้ 

8 ALLERGY

ไอจากเกลือหิมาลัย เมื่อเรานำมาสูดดมสามารถ สามารถช่วยลดอาการภูมิแพ้ แพ้ไรฝุ่น และหอบหืดได้เป็นอย่างดี ทำให้จมูกปลอดโปร่ง และยังช่วยลดอาการนอนกรน รวมไปถึงการปรับสมดุลระบบทางเดินหายใจและไซนัสดีขึ้นอีกด้วย

9. ช่วยควบคุมความดันโลหิต

9 BLOOD PRESSURE

ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ช่วยปรับระบบความดันโลหิตให้เหมาะสมกับร่างกาย ทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ เลือดสูบฉีดดี

10. ช่วยดูดซึมอนุภาคอาหารในลำไส้

10 STOMACH

คุณสมบัติที่ดีอีกอย่างของเกลือหิมาลัยคือช่วยดูดซึมอนุภาคอาหาร หรือ Food Particles ในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายดี ท้องไส้ไม่ปั่นป่วน ไม่เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก หรือกรดไหลย้อน ที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัด และไม่สบายตัว

11. ช่วยให้สมอง กล้ามเนื้อ และระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น

11 BRAIN

เกลือหิมาลัยมีคุณสมบัติเต็มเปี่ยมในการบำรุงสมอง ช่วยให้ระบบประสาททำงานดี ความจำดี และช่วยให้กล้ามเนื้อสมองแข็งแรง

12. ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจ 

12 BREATHING

หากใครมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ หายใจไม่คล่อง หรือมีอาการเป็นไซนัส เกลือหิมาลัยช่วยได้ เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ช่วยให้โพรงจมูก และระบบทางเดินหายให้ปลอดโปร่งและโล่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นดูดซับหนองที่เกิดจากการเป็นไซนัสมาเป็นเวลานาน ให้แห้ง และหายไปในที่สุด 

13. ช่วยป้องกันการเกิดตระคริว 

13 LEG CRAMP

เพราะแร่ธาตุที่มากมายในเกลือหิมาลัยทำให้ป้องกันอาการกล้ามเนื้อเกร็ง อาการตะคริว และอาการปวดกล้ามเนื้อตามร่างกายได้

14. ช่วยชดเชยเกลือแร่ที่สูญเสียไป

14 SWEATING

หากคุณเป็นคนออกกำลังกาย สูญเสียเหงื่อมาก คุณจะทราบว่าร่างกายก็จะสูญเสียเกลือแร่ไปกับเหงื่อด้วย เกลือหิมาลัยช่วยชดเชยเกลือแร่ที่สูญเสียไปในการออกกำลังกาย ทำให้ให้ร่างกายสดชื่นและฟื้นตัวเร็ว

15. เป็นเกลือที่มีโซเดียมน้อยกว่าเกลือทั่วไป 

15 LESS SODIUM

เนื่องจากเกลือหิมาลัยเป็นเกลือที่ Low Sodium หรือมีโซเดียมน้อยกว่าเกลือประเภทอื่น ทำให้เหมาะกกับการประกอบอาหารให้กับผู้ป่วยโรคความดัน โรคหัวใจและ โรคไตที่สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม

16. เหมาะกับการนำมาทำอาหาร

COOKING

เกลือหิมาลัยเหมาะมากสำหรับการนำมาทำอาหาร หรือเครื่องดื่ม เพราะจะทำให้รสชาติอาหารและเครื่องดื่มอร่อยขึ้น กลมกล่อมขึ้น เป็นเกลือยอดนิยมสำหรับเชฟชื่อดังหลายคนเลยทีเดียว

17. ช่วยให้นอนหลับสบาย

17 BETTER SLEEP

เพราะเกลือหิมาลัยเป็นสารให้พลังงาน ให้ความสดชื่น ไม่เหนื่อย และช่วยให้นอนหลับได้สนิทขึ้น เดี๋ยวนี้มีโคมไฟที่ผลิตจากเกลือหิมาลัยมาให้ใช้เปิดในยามนอนหลับ ช่วยให้หลับสนิท หลับสบายตลอดทั้งคืน แถมแสงสีชมพูอมส้มอ่อนๆ ของเกลือหิมาลัยยังให้แสงนวลตา กล่อมให้หลับได้อย่างดีอีกด้วย

ด้วยคุณสมบัตินานับประการ แถมมีสีหวานสวย ทำให้บรรดาเชฟ และเบเกอรี่เชฟทั่วโลกนิยมใช้เกลือหิมาลัยปรังอาหารทั้งเมนูอาหารที่มีเนื้อสัตว์ เมนูมังสวิรัติ และการทำขนม เพราะเกลือหิมาลัยมีรสชาติที่กลมกล่อม เมื่อนำมาบดด้วยที่บดเกลือ และผสมอาหารจะช่วยดึงรสชาติของอาหาร ไม่เค็มจัดจนกลบรสชาติของวัตถุดิบ สเต๊กและเนื้อปลาที่โรยเกลือหิมาลัยก่อนย่างจะมีความชุ่มฉ่ำและให้รสชาติดี นำไปทำเครื่องดื่ม หรือทำเค้กก็จะให้รสชาติเค็มปะแล่มๆ ตัดกับความหวานของเค้กและเครื่องดื่มได้อย่างดี อีกทั้งสีชมพูสวยของเกลือหิมาลัย ช่วยในการทำ Presentation ของอาหารในแต่ละจานได้น่าดูมากอีกด้วย

แนะนำที่บดเกลือน่าใช้

GEFUGEFU ขวดบดเกลือและพริกไทย ไซส์ L รุ่น 34629

ราคา 1,990 บาท 


PEUGEOUTPEUGEOT ที่บดเกลืออะครีลิค 22 ซม. รุ่น PEU900822/SME 

ราคา 3,250 บาท 

MASTRADMASTRAD ที่บดเกลือพริกไทย 

ราคา 995 บาท พิเศษ 846 บาท (SAVE 15%)

ครบครันกับคุณสมบัติชั้นเลิศของเกลือหิมาลัย หรือเกลือสีชมพูที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกาย รับประทานแล้วไม่ทำให้เกิดอาการบวม หรือมีผลร้ายต่อสุขภาพหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม บ้านไหนยังไม่เคยลองปรุงอาหาร หรือใช้ประโยชน์ของเกลือหิมาลัย ลองหามาใช้ที่บ้าน รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับเกลือที่ทรงคุณค่าอย่างเกลือหิมาลัยอย่างแน่นอนค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : sanook.com / akaforeveryoung.com

Picture credit: pinterest.com / healthline.com