New Mommy Diary Chapter 13: 15 วิธีแก้ปัญหาลูกไม่อยากไปโรงเรียน

คงไม่ต้องถามคุณแม่และคุณพ่อที่มีลูกน้อยวัยกำลังไปโรงเรียนว่า คุณเคยประสบปัญหาลูกงอแง ไม่อยากไปโรงเรียนบ้างหรือไม่ มั่นใจว่าคุณแม่และคุณพ่อหลายคู่ต้องเคยประสบปัญหานี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเด็กน้อยในวัยอนุบาล กับช่วงเวลาปีกว่าๆ ที่ลูกหยุดเรียนออนไลน์อยู่กับบ้าน เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

KIDS HATE SCHOOL

มาวันนี้โรงเรียนทุกแห่งได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ลูกๆ เปลี่ยนจากการเรียนออนไลน์อยู่กับบ้านมาเรียนออนไซต์ เด็กๆ ต้องปรับตัวใหม่จากที่เคยเรียนอยู่กับบ้าน ทำตัวสบายๆ เรียนไปด้วยทานขนมไปด้วย มีคุณแม่หรือคุณพ่ออยู่ข้างๆ แต่วันนี้ ต้องกลับมาใส่ชุดนักเรียน หิ้วเป้ หิ้วกระเป๋า เตรียมตัวกลับเข้าห้องเรียน น้องๆ หนูๆ หลายคนอาจมีอาการงอแง อยากเรียนอยู่กับบ้าน อยากอยู่กับคุณแม่และคุณพ่อ เด็กน้อยคงไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าวันนี้ทำไมต้องกลับไปโรงเรียน

เพราะมีลูกเล็กในวัยอนุบาลเหมือนกัน และต้องตอบคำถามลูกว่าทำไมหนูต้องไปโรงเรียน วันนี้จึงอยากชวนเชิญคุณแม่และคุณพ่อที่มีลูกน้อยในวัยเดียวกันที่ไม่อยากไปโรงเรียนมาแก้ปัญหานี้ด้วย 15 เทคนิคแก้ปัญหาลูกน้อยไม่อยากไปโรงเรียนกันค่ะ

15 วิธีแก้ปัญหาลูกไม่อยากไปโรงเรียน

1. ถามลูกถึงเหตุผลว่าทำไมไม่อยากไปโรงเรียน

1 WHY HATE SCHOOL

ทั้งที่คุณแม่และคุณพ่ออาจทราบเหตุผลแล้วว่าทำไมลูกถึงไม่อยากไปโรงเรียน โดยเฉพาะที่เขาหยุดยาวเรียนออนไลน์อยู่กับบ้านในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างหนัก คุณแม่และคุณพ่อก็ควรซักถาม และพูดคุยกับลูก ค่อยๆ พูด ค่อยๆ ถาม ให้ลูกระบายความในใจและความรู้สึกที่ไม่อยากไปโรงเรียนออกมา ไม่ว่าจะเป็นเพราะคืดถึงคุณแม่และคุณพ่อ ไปโรงเรียนแล้วกลัวโดนเพื่อนแกล้ง กลัวเข้าห้องน้ำที่โรงเรียนไม่ได้ หรืออาหารกลางวันที่โรงเรียนไม่ถูกปาก เป็นต้น คุณแม่และคุณพ่อต้องรับฟังลูกอย่างตั้งใจ แสดงความเชื่อใจ และเข้าใจทุกคำพูที่ลูกพูดมา และพยายามหาวิธีแก้ปัญหาต่างๆ หากเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความกังวลในการไปโรงเรียนของลูก 

2. บอกเหตุผลให้ลูกทราบว่าทำไมต้องไปโรงเรียน

2 WHY SCHOOL

คุณแม่และคุณพ่อต้องพยายามสื่อสารให้ลูกทราบว่าทำไมหนูต้องไปโรงเรียน ทำไมคนเราต้องเรียนหนังสือ อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าการเรียนมีความสำคัญอย่างไร ลูกจำเป็นต้องเรียนและมีความรู้เพื่อให้เมื่อเติบใหญ่ลูกจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ จะได้ดูแลคุณแม่และคุณพ่อ กับเด็กเล็ก ควรเลือกหาคำอธิบายที่ฟังง่าย เลือกคำพูดที่สร้างแรงจูงใจให้ลูกอยากไปโรงเรียน และสนุกกับการเรียนหนังสือ เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีและมุมมองใหม่เกี่ยวกับการไปโรงเรียนให้กับลูก

3. สร้างความมั่นคงในจิตใจให้กับลูก

3 CONFIDENT

สำหรับลูกน้อยในวัยที่เริ่มเข้าเรียนเตรียมอนุบาล หรือในวัยอนุบาล อาการไม่อยากไปโรงเรียน เป็นไปตามพัฒนาการของเด็ก โดยเด็กเล็กในวัยนี้ มักเกิดความวิตกกังวลที่จะต้องแยกจากคุณแม่และคุณพ่อ ทำให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียน แต่หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับเด็กประมาณอนุบาล 2 จนถึงวัยประถมต้น มักมีสาเหตุที่ไม่ได้เกิดจากพัฒนาการตามวัย แต่อาจเกิดจากความผูกพันทางอารมณ์ที่มั่นคงกับคุณแม่และคุณพ่อ ซึ่งคุณแม่และคุณพ่อควรค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดู ให้พวกเขามีความมั่นคงในจิตใจมากขึ้น ให้เด็กมีความมั่นใจมากขึ้น ให้ลูกรู้ว่าคุณแม่และคุณพ่อไม่ได้หนีไปไหน เพียงแค่ลูกต้องไปโรงเรียน เดี๋ยวเดียวก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน หากคุณแม่และคุณพ่อสามารถสร้างความรู้สึกผูกพันทางอารมณ์ที่มั่นคงให้เด็กๆ ให้เด็กๆ เชื่อใจได้ อาการกลัวการแยกจากก็จะลดลง

4. สะกดจิตลูกเชิงบวก (NLP)

4 NLP

NLP ย่อมาจากคำว่า Neuro-Linguistic Programming คือการโปรแกรมสมอง ปลุกจิตใต้สำนึกให้มีพลังคิดบวก เพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง NLP เป็นการใช้ 3 ส่วน คือ ประสาทวิทยา (Neurology) ภาษา (Language) และการโปรแกรม (Programming) ที่ผลต่อการสร้างประสบการณ์ของมนุษย์ เป็นการสั่งจิตใต้สำนึกให้คิดถึงแต่สิ่งที่ดีมีความสุข เชื่อมั่นในตัวเองว่าเราทำทุกอย่างให้ประสบความสำเร็จได้ โดยคุณแม่และคุณพ่อสามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ให้ลูกเล็กได้ด้วยการพูดคุยกับลูกก่อนนอน โดยการพูดคำพูดดีๆ ให้พลังด้านบวก พร้อมชี้ให้ลูกเห็นถึงขั้นตอนในการใช้ชีวิตของลูกในแง่ดีด้วยข้อความง่ายๆ ที่เข้าใจได้สำหรับเด็กเล็ก

5. ใจเย็นและรู้จักปลอบโยนลูก 

5 BE KIND

เมื่อลูกไม่อยากไปโรงเรียน คุณแม่และคุณพ่อควรใจเย็น ค่อยๆ ปลอบโยนลูก อธิบายให้เด็กน้อยเข้าใจอย่างนุ่มนวลถึงความสำคัญของการไปโรงเรียน อย่าดุ อย่าว่า หรือบังคับลูก เพราะจะยิ่งทำให้ลูกเกลียดการไปโรงเรียนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ คุณแม่และคุณพ่อเองก็ควรลดความเป็นห่วง และความวิตกกังวลลงเมื่อลูกก้าวเข้าสู่รั้วโรงเรียน อย่ายืนเฝ้าลูก หรือแอบดูลูก เพราะจะยิ่งทำให้เด็กๆ คิดถึง เกิดความกังวล และมีความรู้สึกไม่มั่นใจในการมาโรงเรียนมากขึ้นค่ะ

6. แสวงหาสิ่งที่ทำให้ลูกมีแรงจูงใจในการไปโรงเรียน

6 MOTIVATION 2

เมื่อลูกน้อยเริ่มไปโรงเรียนเรียนได้สักพักแล้ว คุณแม่และคุณพ่อลองสังเกตว่า ลูกมีความกระตือลือล้น หรือชอบอะไรเป็นพิเศษในโรงเรียน เช่น ไปโรงเรียนแล้วลูกจะได้เล่นของเล่นต่างๆ มากมายไม่จำกัด ได้วาดภาพกับเพื่อนๆ ได้รับประทานขนมอร่อยๆ จากคุณครู ได้ว่ายน้ำ หรือกิจกรรมสันทนาการต่างๆ กับเพื่อนๆ หรือคุณครู เป็นต้น การมีสิ่งที่ลูกชอบในโรงเรียนจะเป็นแรงขับให้ลูกชอบ และอยากไปโรงเรียนทุกวัน

7. สร้างทัศนคติเชิงบวกให้กับลูกต่อคุณครูและโรงเรียน

7 ATTITUDE

ไม่ควรอ้างชื่อคุณครูมาขู่ หรือดุลูก หรือสร้างภาพพจน์ในแง่ลบเกี่ยวกับคุณครูกับลูก เช่น ขู่ลูกว่า “หากหนูดื้อ คุณครูหมูจะทำโทษลูกนะ” หรือ “แม่บอกว่าทานข้าวให้หมด ไม่งั้นแม่จะฟ้องคุณครูปุ้ยนะ” เป็นต้น ถ้อยคำเหล่านี้จะทำให้ลูกเกิดความไม่ไว้ใจและกลัวคุณครูทำโทษ จนอาจทำให้ลูกกลัวและเกลียดการไปเจอคุณครู และการไปโรงเรียน

8. สอนลูกให้หาเพื่อนสนิทไว้สักคน

8 CLOSE FRIEND

ในชีวิตคนเรา มีสิ่งสำคัญเพียงไม่กี่สิ่ง นอกจากครอบครัวแล้วก็ยังมีเพื่อนสนิทที่คบกันตั้งแต่เด็กจนโต และยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ ลองแนะนำให้ลูกหาเพื่อนสนิทเอาไว้ บอกนิยามของคำว่าเพื่อนสนิทง่ายๆ ให้กับลูกรู้ แล้วค่อยๆ ให้เขาหาเพื่อนสนิทด้วยตัวเอง การมีเพื่อนสนิทตอนเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะช่วยให้ลูกอยากไปโรงเรียนเพื่อไปเจอเพื่อนที่ตัวเองไว้ใจ เรียนหนังสือด้วยกัน และได้เล่นสนุกด้วยกันค่ะ

9. ไปส่งลูกที่โรงเรียนในช่วงปิดเทอมวันแรกๆ

9 SEND TO SCHOOL

หากลูกแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเริ่มเปิดภาคการศึกษาใหม่ คุณแม่และคุณพ่อควรไปส่งลูกและเล่นกับลูกที่โรงเรียนด้วยตัวเอง พยายามไปส่งและพูดคุย เล่นหัวกับลูกหลายๆ วันจนลูกรู้สึกสบายใจ มั่นใจ และรู้สึกปลอดภัยเมื่อมาโรงเรียน ขอเข้าพบกับครูประจำชั้นเพื่อแจ้งให้ทราบว่าลูกเรามีอาการไม่อยากไปโรงเรียน คุณครูจะได้ทราบ และหาทางปฏิบัติต่อลูกเพื่อให้เกิดการไว้วางใจ ละสนุกกับการไปโรงเรียนค่ะ

10. รักษาคำพูด

10 BE PUNCTUAL

วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กๆ รู้สึกมั่นคงในจิตใจ และยอมไปโรงเรียนได้คือ การที่คุณแม่และคุณพ่อรักษาสัญญา รักษาคำพูด และรักษาเวลากับเขา เมื่อคุณแม่และคุณพ่อไปส่งลูกที่โรงเรียน อาจบอกลูกว่า จะมารับเวลาไหน ซึ่งคุณแม่และคุณพ่อต้องรักษาคำพูด และมาให้ตรงเวลา คำไหนคำนั้น เพราะลูกจะรอคอย คุณแม่และคุณพ่อไม่ควรโกหกลูกเรื่องเวลา บอกลูกไปตรงๆ ว่าวันนี้ลูกต้องเรียนนานแค่ไหน โรงเรียนเลิกกี่โมง เเละคุณแม่หรือคุณพ่อจะมารับตอนกี่โมง จะทำให้ลูกมั่นใจว่าคุณแม่และคุณพ่อจะมารับกลับบ้านแน่นอน ไม่ทอดทิ้ง พร้อมจะได้ฝึกให้ลูกคิดได้อย่างเป็นระบบ ลูกมีการวางแผนว่า ก่อนที่คุณแม่หรือคุณพ่อจะมารับ ลูกอยากทำอะไรก่อน เช่น ไปวิ่งเล่นกับเพื่อนก่อน หรือไปอ่านหนังสือในห้องสมุด เป็นต้น ทำให้ลูกสามารถคาดการณ์ได้ด้วยตัวเอง

หากลูกเร่งอยากให้คุณแม่และคุณพ่อมารับเร็วๆ ก็ควรบอกให้ลูกดูที่เข็มนาฬิกาที่โรงเรียน แล้วบอกว่า  “เมื่อเข็มยาวถึงเลข…… แม่ก็จะมาถึงพอดี ลูกไม่ต้องห่วงค่ะ” วิธีนี้จะทำให้ลูกเชื่อใจ ไม่โยเย และเป็นการฝึกการรอให้กับลูกอีกด้วย แต่ที่สำคัญ ต้องรักษาเวลานะคะ ไม่ควรให้ลูกรอคุณมารับที่โรงเรียนนานๆ ในขณะที่เพื่อนๆ ได้กลับบ้านกันไปหมดแล้ว เพราะจะทำให้ลูกเกลียดและกลัวการไปโรงเรียนค่ะ

11. ชวนลูกพูดคุยเกี่ยวกับโรงเรียน

11 TALK ABOUT SCHOOL

หลังจากการรับลูกกลับจากโรงเรียนแล้ว หลังอาบน้ำ ทำการบ้าน หรือรับประทานอาหารค่ำเสร็จแล้ว ควรชวนลูกพูดคุยอย่างสนุกสนานเกี่ยวกับการไปโรงเรียนในวันนี้ ซักถามลูกว่าวันนี้เรียนเป็นไงบ้าง คุณครูใจดีมั้ย เจออะไรมาบ้าง เพื่อนๆ เป็นยังไง ลูกเล่นกับใคร วันนี้ทานอะไรเป็นอาหารกลางวัน เป็นต้น ชวนพูดชวนคุยแบบสนุก ไม่คาดคั้น วิธีนี้จะช่วยให้คุณแม่และคุณพ่อสังกตพฤติกรรมของลูกว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไรในการไปโรงเรียน จะได้ช่วยปรับปรุง และสรา้งแรงจูงใจให้ลูกอยากไปโรงเรียนมากขึ้น

12. ไม่หนีลูก เพราะไม่เช่นนั้นเขาจะรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง

12 LEAVE KID CRY

อีกเรื่องหนึ่งที่คุณแม่และคุณพ่อไม่ควรทำเมื่อไปส่งลูกที่โรงเรียนคือ การหนีลูก โดยเฉพาะกับเด็กที่ไม่อยากไปโรงเรียน เมื่อส่งลูกถึงมือคุณครู ไม่ควรรีบหนีไปในทันที ควรยืนส่งลูกจนคุณครูพาลูกเข้าห้องเรียน ไม่ว่าลูกจะร้องโยเยแค่ไหน คุณต้องกัดฟัน กลั้นน้ำตา ยืนอย่างแข็งแกร่งให้ลูกเห็นว่าคุณแม่และคุณพ่อไม่ได้หนีไปไหน ไม่ได้ทิ้งลูก ยังคงยืนเป็นกำลังใส่งลูกอยู่ตรงนี้ ลูกเรียนหนังสือได้อย่างสบายใจ เมื่อลูกลับตาเข้าห้องเรียนแล้วค่อยแยกย้าย ฝากลูกไว้กับคุณครูค่ะ

13. สอนให้ลูกช่วยเหลือตัวเองได้

13 HELP WITH HOUSE CHORES 1

หากคุณแม่และคุณพ่อประคบประหงม ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยมากจนเกินไป  ลูกก็จะไม่สามารถดูแลช่วยเหลือตัวเองได้ อาจทำให้ลูกมีพัฒนาการทางสังคมล่าช้า เข้าสังคมไม่ได้ เมื่อเจอเพื่อนๆ ที่โรงเรียนที่กระฉับกระเฉง เก่งกว่า หรือดีกว่า ลูกอาจมีความรู้สึกด้วยค่า ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียนได้เช่นกันค่ะ

 14. มีขนมให้ลูกติดไม้ติดมือไปฝากเพื่อนและคุณครู

14 SHARE COOKIES

อันนี้ไม่ได้สอนให้ลูกหัดติดสินบนใดๆ กับคุณครูหรือเพื่อนๆ แต่เป็นการสอนให้ลูกรู้จักแบ่งปัน แถมยังทำให้ลูกได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆ เพราะลูกมีน้ำใจชอบแบ่งปันขนมให้กับเพื่อนๆ และคุณครู  ในทางกลับกันเพื่อนๆ ก็จะมีน้ำใจแบ่งให้กับลูกด้วย ซึ่งจะทำให้ลูกรู้สึกดี และมีเพื่อนมากมายเมื่อไปที่โรงเรียน 

15. ชื่นชมและให้กำลังใจลูก

15 PRAISE YOUR KID

เมื่อลูกกลับมาจากโรงเรียน และสามารถจัดแจงตัวเอง ทำอะไรได้ด้วยตัวเอง คุณแม่และคุณพ่อควรให้คำชมเชยลูก เช่น ลูกเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง เก็บขยะทิ้งลงถังเอง เก็บแก้วน้ำเอง หรือเก็บของเล่นเข้าที่ได้ด้วยตัวเอง คุณแม่และคุณพ่อควรชี้ให้ลูกเห็นว่าลูกทำดีได้ ดูแลตัวเอง และช่วยเหลืองานบ้านได้แบบนี้ก็เพราะการไปโรงเรียน คุณครูสอนมาดี เพื่อนๆ ของลูกก็คงเก่งเหมือนกับลูก วิธีนี้ลูกจะมีความมั่นใจ และอยากไปโรงเรียนมากขึ้น ลูกรู้สึกว่าทำอะไรได้เก่งเท่าๆ เพื่อน ชื่นชมและให้กำลังใจลูกในทุกความสามารถและการกระทำที่เขาแสดงให้เห็นว่าเป็นผลดีจากการไปโรงเรียนนั่นเอง

ไหนๆ ลูกต้องไปโรงเรียนแล้ว การมีอุปกรณ์ของใช้ในการไปโรงเรียนแบบครบครัน ดีไซน์น่ารักที่ลูกได้เลือกเอง เช่น กระเป๋าเป้ไปโรงเรียน กระติกน้ำ กล่องดินสอ เครื่องเขียนต่างๆ ก็อาจทำให้ลูกอยากไปโรงเรียนมากขึ้น ต้องการหาของใช้ไปโรงเรียนของเด็กที่ครบครัน และทันสมัย ช้อปเลยที่ Central App คะ

กระเป๋าเป้ไปโรงเรียนน่ารัก

SMIGGLE GIRL BLUESMIGGLE กระเป๋าเป้ Animalia Junior Character รุ่น 446558GR สีมินต์

ราคา 1,490 บาท 

HUGGAR PURPLE BACKPACKHUGGER กระเป๋าเป้เด็ก VI

ราคา 1,250 บาท

SMIGGLE BOY BACKPACK GREYSMIGGLE กระเป๋าเป้ คอลเลกชั่น Striker สีเทา

ราคา 1,690 บาท

KIDS&TEENKIDS&TEENS กระเป๋าเป้นักเรียน

ราคา 850 บาท 

กระติกน้ำน่ารัก

FACE BOOTLEFACE กระติกน้ำ Face รุ่น FC-018

ราคา 1,290 บาท 

SKIP HOP BOTTLESKIP HOP ขวดน้ำพกพาสำหรับเด็ก Zoo Straw Bottle PP Monkey ขนาด 13 ออนซ์ 

ราคา 395 บาท 

TOMMEE TIPPEETOMMEE TIPPEE กระติกน้ำพร้อมหลอด ลายเสือ 12 M+ รุ่น 448018/38 280 มล.

ราคา 1,595 บาท 

เครื่องเขียนน่าใช้

SANRIO PENCIL CASESANRIO กระเป๋าดินสอ Hello Kitty 

ราคา 925 บาท พิเศษ 459 บาท (SAVE 50%)

SMIGGLE PENCIL CASESMIGGLE กล่องดินสอ Beyond Pop Out 

ราคา 690 บาท 

AVENGERS PENCILSAVENGERS ดินสอต่อไส้คละลาย(แพ็ค 4 แท่ง) Avengers AVG-1202-4

ราคา 42 บาท 

FABER CASTELL COLOR PENCILSFABER CASTELL ดินสอสีไม้ 24 สี ด้ามสามเหลี่ยม Faber-Castell 115855

ราคา 128 บาท 

B2S CRAYOLAB2S Crayola สีน้ำเซ็ท 50 สี ล้างออกได้

ราคา 1,000 บาท 

ครบครันกับทั้ง 15 วิธีในการจูงใจลูกรักให้อยากไปโรงเรียน หากคุณแม่และคุณพ่อค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป อดทน อดกลั้น แล้วปล่อยให้ลูกเติบโต ก้าวออกไปโดยเอาชนะความไม่อยากไปโรงเรียนได้ ด้วยการชี้นำของคุณแม่และคุณพ่อ ต่อไปลูกรักของคุณก็จะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หายห่วงกับเรื่องของการไม่อยากไปโรงเรียนอย่างแน่นนอนค่ะ Happy Parenting นะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก: happymom.in.th/amarinbabyandkids.com/maerakluke.com

Picture credit: pinterest.com/additudemag.com