Researches-have-answer-to-it-that-winter-makes-single-want-to-be-in-love (1)

จริงหรือไม่!? ที่ลมหนาวทำให้เราอยากมีคู่ ผลวิจัยมีคำตอบ

เพราะตอนนี้มันเข้าหน้าหนาว อากาสดีๆ มันก็ให้ความรู้สึกดีๆ กับเราหลายอย่าง ที่แน่ๆ คือ ตื่นเช้ามาได้รับลมเย็นเบาๆ ถึงแม้จะยังไม่รู้สึกหนาวมาก แต่ก็สร้างความรู้สึกสดชื่น แจ่มใสให้ได้ตลอดทั้งวัน

ฤดูหนาวยังนำพามาซึ่งความรู้สึกเล็กๆ ในหัวใจ สำหรับคนมีคู่แล้วก็บอกผ่านไป แต่สำหรับคนโสด หน้าหนาวมันทำให้เรารู้สึกอยากมีคู่ เป็นช่วงเวลาที่คนโสดอยากมีใครสักคนอยู่ข้างกายให้คลายหนาว และคลายเหงา ฤดูหนาวแบบนี้ทำไมคนโสดถึงอยากมีคู่ มันไม่ใช่เรื่องมโน มันเป็นความรู้สึกที่พิสูจน์ได้ด้วยการวิจัย และการศึกษาทางวิทยาศาสต์ที่น่าเชื่อถือ มันไม่ใช่เรื่องแปลกหากคุณเป็นคนโสดและรู้สึกว่าหนาวนี้ต้องมีคู่กับเค้าให้ได้ ทำไมลมหนาวถึงทำให้คนโสดอยากมีคู่ เรามาดูกันดีกว่าค่ะ

ทำไมฤดูหนาวถึงเป็นฤดูกาลแห่งการหาคู่?

HANDS

Dr. Dara Bushman DeLeon นักจิตวิทยาคลินิค หรือ Clinical Psychologist ที่มีชื่อเสียงชาวอเมริกันได้ให้คำอธิบายว่า เหตุผลที่คนโสดอยากมีคู่ในหน้าหนาวนั้นว่า “เพราะในสภาพอากาศที่หนาวเย็น ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่ค่อยมีแดด ผู้คนมักเก็บตัวอยู่กับบ้าน คนโสดต้องเผชิญกับความเหงาและหมดหวัง ต้องอยู่คนเดียว เพราะไม่มีคู่รักเหมือนคนอื่นๆ ยิ่งในช่วงเทศกาลแห่งความสุข เทศกาลคริสต์มาส หรือส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คนไร้คู่มักถูกถามด้วยคำถามแทงใจดำว่า “มีแฟนหรือยัง?” มันยิ่งทำให้คนโสดร้าวในดวงใจ จึงอยากมีคู่ในช่วงเวลาที่อากาศกำลังเป็นใจ ไม่ควรอยู่โดดเดี่ยวแบบนี้”

อันที่จริงแล้วคนเราจะมีแฟน หรือปิ๊งใครสักคนมันอาจเกิดขึ้นในทุกฤดูกาล แต่ในฤดูหนาวนั้นดูเหมือนว่าคนโสดจะมีความรู้สึกใจเต้นรัวผิดจังหวะ อยากจะมีคู่มากกว่าในฤดูอื่น โดยสาเหตุต่างๆ อาจเกิดจากปัจจัยเหล่านี้

1. ดินฟ้าอากาศ

อ

ในฤดูหนาว อากาศจะขมุกขมัว มืดครึ้ม อากาศไม่ค่อยสดใส ทำให้อะไรๆ ก็ดูไม่น่าสดชื่น ดินฟ้าอากาศแบบนี้อาจทำให้คนโสดรู้สึกเปล่าเปลี่ยว เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่กับบ้าน ไม่รู้แจ่มใสเหมือนในหน้าร้อนที่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเสียเวลาคิดเรื่องการมีคู่ให้ปวดใจ

2. อากาศหนาว

COLD

ก็เพราะอากาศหนาวไง คนเราถึงอยากกอด หรืออยากซบอกใครสักคน จะกอดเพื่อนก็ยังไงๆ อยู่ กอดบุพการีก็อบอุ่นดี แต่มันก็ยังไม่ใช่ อากาศในหน้าหนาวจะช่วยให้อบอุ่นทั้งกายและใจ การได้กอดคนรักนั้นดูเหมือนจะแก้หนาวได้ดีที่สุด

3. ความเหงาและความเศร้า หรือ Winter Blue

WINTER BLUE

เมื่อคนเรารู้สึกเหงาหรือเศร้ามากๆ ก็พยายามจะชดเชยสิ่งที่หายไปด้วยการออกไปมองหาความรักและความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป โดยเฉพาะหน้าหนาวจะมีฮอร์โมนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกอยากมีคู่ออกมามากที่สุด

ผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์กับการหาคู่ในฤดูหนาว

LOVE1

มีผลการวิจัยและการศึกษามากมายที่บ่งชี้ว่าคนโสดมักอยากมีแฟน หรืออยากมีคู่ในช่วงฤดูหนาว ไม่ได้เป็นการคิดไปเองของคนโสด หลายปีที่ผ่านมา ได้มีการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศกับความต้องการผูกพันทางกายและใจ หรือการมีคู่ พบว่า “ในอดีตเมื่อมนุษย์ยังไม่มีอุปกรณ์ให้ความอบอุ่นที่ทันสมัย อากาศหนาวนั้นเป็นอันตรายกับคนมากกว่าอากาศร้อน ดังนั้นคนในสมัยนั้นจึงต้องเข้ามาอยู่ด้วยกัน และเข้าใกล้กันเพื่อทำให้ความอุ่นในตัวส่งถึงกันได้ เพื่อที่จะอยู่รอด”

รายงานการวิจัยหลายชิ้นระบุว่า ในยามที่มีอากาศหนาวนั้นจะทำให้ เซโรโทนิน (Serotonin) หรือ ‘ฮอร์โมนความสุข’ มีระดับที่ลดลงทำให้คนอาจรู้สึกไร้ความสุข เหงาเปล่าเปลี่ยว จึงทำให้ต้องหันไปมองหาความอบอุ่นทั้งกายและใจจากคนอื่น นอกจากนี้ก็ยังมีงานวิจัยชิ้นอื่นๆ ที่ระบุว่า ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งควบคุมแรงขับทางเพศจะเพิ่มขึ้นในช่วงอากาศหนาว

COUPLE2

อีกงานวิจัยจาก Journal of Clinical Endocrinology and Metabolism ที่ตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 2003 ซึ่งเป็นการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างเพศชายจำนวน 1,548 คน ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของนอร์เวย์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีอากาศหนาวจัด ระดับเทสโทสเตอโรนของกลุ่มตัวอย่างจะลดลงต่ำสุดในเดือนที่มีอุณหภูมิที่สูงที่สุดและในระยะเวลาแสงแดดที่ยาวนานที่สุด หรือในหน้าร้อน ส่วนระดับที่สูงที่สุดจะพบในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเย็นลงและเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว การเพิ่มขึ้นดังกล่าวก็จะทำให้เพศชายมองหาคู่ของตัวเองมากขึ้นกว่าในช่วงเวลาอื่นๆ ของปี

นพ.ปีย์ เชษฐ์โชติศักดิ์ นักเขียนเจ้าของหนังสือขายดี Theory of Love เหตุ ผล คน รัก และ Theory of Loneliness เหตุเกิดจากความเหงา เจ้าของเพจเฟสบุ๊ค Theory of Love ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 80,000 คน เล็งเห็นว่าวิวัฒนาการของมนุษย์น่าจะทำให้คนเราผูกพันและเข้าหากับสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นความอบอุ่นทั้งทางกายและในเชิงจิตวิทยา และหากจะพูดเรื่องงานวิจัยที่เกี่ยวกับอารมณ์และอุณหภูมิแล้ว มักจะพูดถึงความอบอุ่น และความหนาวเย็นที่ในเชิงภาษาด้วย ซึ่งน่าจะหมายถึงว่าคนจะพยายามหลีกหนีจากความรู้สึกหนาวเย็นทั้งทางกายและใจ โดยการแสวงหาความผูกพันที่ก่อให้เกิดความอบอุ่นขึ้นดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจที่คนโสดทั้งหญิงและชายจะเริ่มมองซ้าย มองขวา และมองหาคนรู้ใจในช่วงที่มีอากาศหนาว

Cuffing Season ฤดูกาลแห่งการมีคู่

COUPLE

จากบทความ Is ‘Cuffing Season’ Really Just Human Mating Season? The Science Behind The Millennial Phenomenon ในเว็บไซต์ Medical Daily ซึ่งสัมภาษณ์ Dr. Scott Caroll จิตแพทย์จากอัลเบอร์เคอร์คี ในนิว เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ผู้ศึกษาเกี่ยวกับการมีคู่ในฤดูหนาวของมนุษย์ ระบุว่ามนุษย์เราจะหาคู่ในช่วงฤดูหนาวมากที่สุด เพราะอยากใช้ช่วงเทศกาลพิเศษในฤดูหนาวพบปะครอบครัวและอยู่กับคนรัก

COUPLE1

ดังนั้น ฤดูหนาวจึงเป็นฤดูที่คนโสดมองหาใครสักคนที่ช่วยมอบความอบอุ่นให้ทั้งกายและใจ คำว่า ‘Cuffing Season’ จึงปรากฏอยู่ใน บรรณานุกรม Urban Dictionary ซึ่งกล่าวเอาไว้ว่า “ฤดูหนาว เป็นช่วงเวลาที่คนโสดส่วนมากทั่วโลกต้องเผชิญกับความเหงา เปล่าเปลี่ยว จึงอยากมีใครสักคนที่มาผูกมัด หรือผูกพัน เหมือนกับการถูกใส่กุญแจมือ หรือ Hand Cuffs อยากมีความสัมพันธ์จริงจังกับใครสักคน”

ถึงแม้ว่าวินเทอร์นี้จะไม่มีคู่แท้ผ่านเข้ามา แต่อย่าให้ความเหงาเข้ามาทำร้ายตัวคุณ สดใสเข้าไว้ ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง อัพลุค อัพความสุข ปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ รอบตัวเรา เช่น ตัดผมทรงใหม่ ทำสีผมใหม่รับฤดูหนาว ช้อปเครื่องสำอาง หรือน้ำหอมกลิ่นละมุนเติมความเซ็กซี่ให้กับคุณ ช้อปเครื่องเสียง เปิดเพลงมันๆ แล้วแดนซ์ไปกับจังหวะสุดเร้าใจ หรือช้อปเครื่องนอนเนื้อนุ่น ลวดลายหวานที่ช่วยให้นอนหลับสบาย เติมความสดใสนอนอุ่นสบายในหน้าหนาว หลากหลายไอเทมเติมความสุขที่มีให้คุณเลือกช้อปมากมายที่ Central App ช้อปได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วคลิ๊ก

สำหรับคนโสด ความรู้สึกอยากมีคู่ในฤดูหนาวนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้จากการวิจัยทางวิทยศาสตร์ว่ายามลมหนาวพัดผ่าน คนโสดจะมองหาคู่ แต่ถึงแม้ว่าหนาวนี้จะไม่ได้ฤดูกาลของเรา ขอให้หัวใจของคนโสดมีแต่ความสุข เต็มเปี่ยมไปด้วยความสดใส เพื่อวันดีๆ จะได้ก้าวเข้ามาทำให้หัวใจของคุณอบอุ่นในเร็ววันนี้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก: bbc.com/glamour.com/medicaldaily.com

Picture credit: pinterest.com