Get to Know! ฝีดาษลิง รู้ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

โลกของเราในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา มีวิกฤตการณ์เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฝุ่นควันพิษ PM 2.5 ตามมาด้วยการระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ที่ยังคงระบาดไปทั่ว แม้ว่าจะดูผ่อนคลายลง แต่โควิด-19 ก็ยังคงอยู่ไม่ได้จางหายไปไหน หากไม่ใช่เรื่องของโรคภัยร้าย ก็เป็นเรื่องของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ผู้คนล้มตาย เกิดปัญหาน้ำมันแพง ปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง จนเดือดร้อนกันไปทั่วโลก แล้วรายล่าสุดที่กำลังเข้ามาสร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชนชาวโลก คือ ฝีดาษลิง ที่ลุกลามและติดต่อไปในหลายประเทศ แต่ประเทศไทยของเรายังมีความโชคดี ฝีดาษวานรยังลามมาไม่ถึง

แม้ว่าฝีดาษลิงยังไม่เข้ามาในประเทศไทย แต่เราคนไทยควรทำความรู้จักโรคระบาดชนิดนี้กันไว้ก่อนว่าฝีดาษลิงคืออะไร ติดต่อจากไหน อาการเป็นอย่างไร แล้วมีวิธีป้องกันอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ

ฝีดาษลิงคืออะไร

MONKEYPOX

ฝีดาษลิง หรือ Monkeypok เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่ม Poxvirus ที่พบครั้งแรกในลิงที่เลี้ยงไว้เพื่อทำการวิจัยในปี ค.ศ. 1958 แต่พบในคนครั้งแรกในปี ค.ศ. 1970 ในประเทศคองโก ส่วนใหญ่พบการติดเชื้อในแอฟริกา 

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค (คร.) ให้ความรู้ในเรื่องฝีดาษลิงว่า โรคติดต่อนี้มีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ West African Clade ซึ่งมีอาการไม่รุนแรง อัตราการป่วยตายอยู่ที่ร้อยละ 1  และสายพันธุ์ Central African ฉlade ซึ่งมีอาการรุนแรงกว่า อัตราการป่วยตายอยู่ที่ร้อยละ 10 ส่วนการติดต่อยังไม่แน่ชัด แต่คาดว่าเป็นการติดต่อจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก โดยเฉพาะสัตว์กัดแทะและลิง

การระบาดของโรคฝีดาษลิง

MONKEYPOX VIRUS

การระบาดของโรคฝีดาษลิงเกิดขึ้นครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2022 โดยเกิดขึ้นกับชาวอังกฤษซึ่งเดินทางไปยังประเทศไนจีเรีย ซึ่งที่นั่นถือเป็นโรคเฉพาะถิ่น ต่อมาชาวอังกฤษคนดังกล่าวได้เดินทางกลับเข้ามาในสหราชอาณาจักรในวันที่ 4 พฤษภาคม โดยกลายเป็นผู้ป่วยที่นำโรคติดต่อเข้ามาในประเทศเป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม ได้พบการแพร่ระบาดของฝีดาษลิงในพื้นที่กรุงลอนดอนเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้โดยมีรายงานการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ และนอกสหราชอณาจักรในวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 ในประเทศโปรตุเกส สวีเดน อิตาลี เบลเยี่ยม เยอรมนี สเปน ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา

การติดต่อของไข้ฝีดาษลิง

การติดต่อไข้ฝีดาษลิงจะแบ่งออกเป็น 2 ทาง คือ

  • การติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยการสัมผัสกับสารคัดหลั่ง หรือแผลของสัตว์ป่วย หรือการกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก
  • การติดต่อจากคนสู่คน โดยการสัมผัสสารคัดหลั่งทางเดินหายใจ (Droplet Respiratory Particle) ของผู้ป่วยหรือสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่งหรือแผลของผู้ป่วย เช่น เสื้อผ้า เป็นต้น

อาการของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง

SYMPTOMS

โดยปกติโรคนี้จะแสดงอาการป่วยไม่รุนแรง ถึงรุนแรงปานกลาง โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ

  • ช่วงแรก

จากวันที่ติดเชื้อในวันที่ 0-5 จะมีอาการเป็นไข้ ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อและหมดแรง ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่อาการแรกที่มี มักจะเป็นอาการไข้ แต่ระยะออกผื่นมักจะเป็นช่วงที่สามารถแพร่เชื้อได้มาก

  • ช่วงที่ 2

เป็นช่วงที่จะเกิดผื่นภายใน 1-3 วันหลังมีไข้ จะมีลักษณะการกระจายเริ่มจากบริเวณหน้า และกระจายไปส่วนต่างๆของร่างกาย ส่วนใหญ่ 95% ของผู้ป่วยจะมีผื่นที่หน้าและ 75% มีผื่นที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า แต่ยังสามารถพบผื่นได้ที่บริเวณอื่นของร่างกาย เช่น ช่องปาก และอวัยวะเพศ ซึ่งลักษณะของผื่นจะพัมนาไปตามระยะดังต่อไปนี้ ผื่นนูนแดง (Maculopapular) ตุ่มน้ำใส (Vesicles) ตุ่มหนอง (Pustules) และสะเก็ต (Crust) โดยพบว่าหากผู้ป่วยมีผื่นลักษณะสะเก็ดขึ้นจนแห้งและร่วงหลุดไป จะไม่มีการแพร่เชื้อได้

อย่างไรก็ตาม โรคฝีดาษลิง ส่วนใหญ่หายเองได้ แต่สามารถพบผู้ป่วยมีอาการรุนแรงได้ อย่างเด็กที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือกลุ่มมีอาการแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อซ้ำซ้อน ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ การติดเชื้อเข้ากระแสเลือด และการติดเชื้อที่กระจกตา อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น

วิธีป้องกันโรคฝีดาษลิง

MONKEYPOX TUBES

ในปัจจุบันยังไม่มียาที่สามารถรักษาโรคฝีดาษลิงได้ อาจจะยังใช้ยาที่ใช้รักษาฝีดาษในคนมารักษาทดแทนไปก่อน เช่น ยา Tecovirimate, Cidofovir หรือ Brincidofovir และการฉีดวัคซีนไข้ฝีดาษ (Smallpox) เป็นต้น ถึงแม้ว่าโรคฝีดาษลิงจะยังไม่แพร่ระบาดเข้าสู่ประเทศไทย แต่ในระยะนี้ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ฟันแทะหรือลิงที่มีอาการ และคนที่มีอาการ หรือมีความเสี่ยงสูง ต้องใส่หน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ รวมทั้งห้ามใช้ภาชนะ แก้วน้ำ หรือช้อนส้อมร่วมกับผู้ที่น่าสงสัยว่าจะมีอาการของโรค หากมีความกังวล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์โดยทันที 

รู้รอบกันแล้วเกี่ยวกับไข้ฝีดาษลิง ถึงแม้ว่ายังไม่มีการระบาดเข้าประเทศไทย และรัฐบาลจะคุมเข้มในมาตรการตรวจตราคนเข้าประเทศ เพื่อป้องกันคนป่วยเป็นไข้ฝีดาษลิงเข้าไทย แต่ก็อยากให้ทุกคนระวังตัวกันไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นไวรัสโควิด-19 หรือไข้ฝีดาษลิง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตกันอย่างมีสติ และมีความระมัดระวัง ด้วยความห่วงใยจาก Central Inspirer ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ Be Strong Be Healthy ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก: hfocus.org/wikipedia.org/thainakarin.co.th

Picture credit: pinterest.com/news18.com/gazettengr.com