5-วิธีรับมือโรคของเด็กแรกเกิด

5 โรคที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กแรกเกิดในฤดูหนาวรับมือยังไงดี?

ฤดูหนาวที่ใครๆ ก็ชอบเพราะอากาศที่แสนดีโอบล้อมอยู่รอบตัว แต่สำหรับคุณแม่ที่มีลูกอ่อนอาจจะไม่สบายใจเหมือนใครๆ เท่าไร เพราะหน้านี้เป็นฤดูกาลที่เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่าย ก่อให้เกิดโรคต่างๆ มากมายได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งเด็กแรกเกิดมีภูมิคุ้มกันค่อนข้างต่ำ จึงมีความเสี่ยงสูงกว่าคนอื่น แบบที่คุณแม่ทั้งหลายไม่อาจนิ่งนอนใจได้เลย วันนี้เราก็มีวิธีการดูแลเด็กแรกเกิดให้พ้นจากโรคหน้าหนาวมาฝาก เพราะการจะห่างไกลจากโรคได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงเด็กแรกเกิดให้ถูกวิธีด้วย

โรคที่มากับหน้าหนาวและวิธีการดูแลเด็กแรกเกิดให้ปลอดภัย  

โรคไข้หวัด – โรคไข้หวัดเป็นโรคยอดฮิตที่ชอบมากับหน้าหนาว โดยเฉพาะในเด็กแรกเกิดที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ โรคไข้หวัดจะยิ่งเข้าแทรกแซงได้ง่าย โดยต้นเหตุของโรคนี้มาจากเชื้อไวรัสที่ในหน้าหนาวจะแพร่กระจายอยู่ในอากาศและเติบโตเร็ว ติดต่อกันได้ผ่านการไอ จาม หรือการใช้สิ่งของร่วมกัน อาการของเด็กแรกเกิดที่เป็นโรคไข้หวัด คือมีไข้ อุณหภูมิจะสูงขึ้น มีน้ำมูกไหล ไอและจาม ร่างกายอาจสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตาแดงได้มากกว่าในผู้ใหญ่ ความอันตรายของไข้หวัดในเด็กแรกเกิดถ้ามีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดติดเชื้อรุนแรง อาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้

สิ่งที่คุณแม่ควรทำคือให้ความอบอุ่นลูกอยู่เสมอ และไม่ควรใช้ของร่วมกัน โดยของเด็กแรกเกิดควรมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ส่วนวิธีการดูแลเด็กแรกเกิดเริ่มต้นเมื่อรู้ว่ามีไข้ คุณแม่อาจให้ลูกทานยาลดไข้ เช็ดเนื้อเช็ดตัว ให้ลูกพักผ่อนเยอะๆ รวมทั้งให้ดื่มน้ำเยอะๆ ด้วย หากอาการหนักให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว

โรคท้องร่วง

เกิดจากไวรัสโรต้า ที่แพร่กระจายในหน้าหนาวเช่นกัน เพราะไวรัสจะมีอายุยาวนานในหน้าหนาวเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดในฤดูนี้ ยิ่งในเด็กแรกเกิดจะพบว่าโรคท้องร่วงเกิดได้ง่ายมาก อาการของเด็กที่เป็นโรคนี้จะมีไข้ เบื่ออาหาร อาเจียน และถ่ายเหลว การติดต่อของโรคนี้มาจากการสัมผัสกับอุจจาระ หรือวัสดุที่ปนเปื้อนอุจจาระ ดังนั้นความสะอาดเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่คุณแม่ต้องดูแลเด็กแรกเกิดให้ดี โดยการล้างมือลูกให้สะอาดอยู่เสมอ ความอันตรายของโรคนี้ถ้าหากเด็กอ่อนเพลียมากๆ ก็อาจถึงขั้นช็อคและเสียชีวิตได้

สิ่งที่คุณแม่ควรทำคือหมั่นล้างมือให้ลูกและตัวเองอยู่เสมอ ทุกครั้งหลังเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก หรือก่อนชงนม ใส่ใจเรื่องความสะอาดให้มาก ระวังอย่าให้ลูกหยิบสิ่งของเข้าปาก เพราะอาจมีไวรัสปนเปื้อนอยู่ รวมทั้งการปรุงอาหารให้ลูกก็ควรใส่ใจในเรื่องของความสะอาดให้มาก  

โรคหัด

โรคหัดเป็นอีกโรคหนึ่งที่เกิดจากเชื้อไวรัส ทำให้หน้าหนาวโรคนี้แพร่ระบาดไปทั่ว เพราะไวรัสจะเติบโตได้ดีในอากาศเย็น และมีอายุยาวนานกว่าฤดูอื่นๆ สำหรับเด็กแรกเกิดยังมีความเสี่ยงของโรคมากกว่าผู้ใหญ่ พบบ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี อาการของโรคจะคล้ายๆ ไข้หวัด แต่จะมีจุดเล็กๆ ขึ้นตามตัวด้วย เด็กจะมีอาการคัน ติดต่อได้จากการไอหรือจาม และการใช้ของร่วมกัน ดังนั้นจึงไม่ควรให้ลูกใช้ของร่วมกับผู้อื่น

สิ่งที่คุณแม่ควรทำคือหลีกเลี่ยงการพาลูกไปอยู่ในที่ที่มีคนอยู่เยอะ เพราะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคได้ง่ายโดยเฉพาะในเด็กแรกเกิด หากพบว่าลูกมีไข้หวัด ให้ลูกกินยาลดไข้ และให้ดื่มน้ำเยอะๆ ดูแลคล้ายกับโรคไข้หวัด ให้ลูกพักผ่อนมากๆ และหมั่นเช็ดเนื้อเช็ดตัวสม่ำเสมอเพื่อลดไข้ อย่าอาบน้ำเย็นให้ลูก หากลูกหายใจมีเสียงวี๊ด หรือมีเสมหะเขียวข้น ควรพาไปพบแพทย์

โรคอีสุกอีใส

 โรคที่เกิดจากไวรัสชื่อวาริเซลลา หรือฮิวแมนเฮอร์ปี่ เป็นอีกโรคที่มักมากับหน้าหนาวและโจมตีเด็กๆ สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางระบบหายใจ การไอหรือจาม และการสัมผัสโดนตุ่มอีสุกอีใส รวมทั้งการสัมผัสกับสิ่งของที่เปื้อนตุ่มอีสุกอีใส เด็กจะมีไข้ เบื่ออาหาร และงอแง มีตุ่มแดงแล้วเปลี่ยนเป็นตุ่มใสขึ้นตามตัว อาจมีน้ำมูกสีเหลือง เวลาไอมีเสมหะ

สิ่งที่คุณแม่ควรทำคือพาไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาไปตามขั้นตอน พร้อมทั้งกักเด็กแรกเกิดที่ป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสไว้ให้อยู่บ้านจนกว่าตุ่มสุดท้ายจะตกสะเก็ดแห้ง สามารถลดไข้ด้วยยาพาราเซตามอล ส่วนบริเวณตุ่มทาด้วยคาราไมน์ ช่วยบรรเทาอาการ ควรตัดเล็บลูกให้สั้นพร้อมทั้งใส่ถุงมือ เพื่อไม่ให้ลูกเกา

โรคปอดบวม

เกิดจากการติดเชื้อเฉียบพลันทางระบบหายใจ ส่วนใหญ่มาจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา หรือพยาธิ ทำให้เกิดการอักเสบที่ปอด อาการเบื้องต้นเด็กจะมีไข้ ไอมีเสมหะ มีอาการหนาวสั่น หากมีอาการรุนแรง จะหายใจได้ลำบาก จมูกบาน ริมฝีปากเขียว หากเกิดในเด็กอายุน้อยกว่า 2 เดือนจะมีอัตราการหายใจมากกว่า 60 ครั้งต่อนาทีขั้นไป หากเป็นในเด็กอายุ 2-12 เดือนอัตราการหายใจอยู่ที่ 50 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป เด็กอายุ 1-5 ปีมีอัตราการหายใจมากกว่า 40 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป

สิ่งที่คุณแม่ควรทำคือฝึกให้เด็กล้างมือบ่อยๆ และใส่ใจความสะอาดของที่อยู่อาศัยเสมอ หลีกเลี่ยงอากาศที่หนาวเย็น และสิ่งแวดล้อมที่เสี่ยง หากพบอาการเบื้องต้นของโรคปอดบอมควรรีบพาลูกไปพบแพทย์โดยด่วน

วิธีเลี้ยงเด็กแรกเกิดให้แข็งแรงปลอดภัยห่างไกลโรค

  • ใส่ใจความสะอาดที่ถูกสุขลักษณะ ตั้งแต่เครื่องแต่งกาย ข้าวของเครื่องใช้ ไปจนถึงสถานที่อยู่อาศัย
  • อย่าใช้ของร่วมกันแต่ควรมีของใช้ส่วนตัวของใครของมัน โดยเฉพาะในเด็กไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น
  • พยามยามให้ลูกอยู่ในภาวะที่แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้กับลูกๆ โดยการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ให้ลูก
  • คุณแม่เองก็ต้องพยายามดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรง เพื่อให้น้ำนมมีคุณประโยชน์ เมื่อเด็กดื่มนมแม่ที่มีสุขภาพแข็งแรง ก็จะได้รับภูมิต้านทานไปด้วย
  • ให้เด็กพักผ่อนเยอะๆ เพื่อร่างกายที่แข็งแรง เสริมสร้างภูมิต้านทาน

ทั้งหมดนี้ก็เป็นความรู้ในเรื่องของวิธีเลี้ยงเด็กแรกเกิดในช่วงหน้าหนาว เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและปลอดภัยจากโรคร้ายที่กล่าวมา และเนื่องจากว่าร่างกายของเด็กแรกเกิดมีภูมิคุ้มกันค่อนข้างต่ำ จึงจำเป็นต้องให้การดูแลเด็กแรกเกิดอย่างใกล้ชิด