สำหรับทุกคนที่มีปัญหาสายตาไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง ไอเท็มประจำตัวที่จำเป็นอย่างยิ่งเลยก็คือแว่นตา แต่สิ่งสำคัญที่จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาสายตาให้กับเราได้นั่นคือ เลนส์แว่น ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักของแว่นตาทุกประเภท แต่คุณทราบไหมว่าเลนส์แว่นตาที่เราสวมใส่กันอยู่นั้นก็มีหลากหลายรูปแบบและแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น เลนส์ชั้นเดียว เลนส์สองชั้น เลนส์โปรเกรสซีฟ หรือจะเป็นเลนส์มัลติโค้ท เป็นต้น อีกทั้งในปัจจุบันยังมีวิธีต่างๆที่สามารถเพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้เลนส์แว่นตาเพื่อป้องกันปัญหาเลนส์แว่นตาเป็นรอยให้แก่คุณได้อีกด้วย ฉะนั้นก่อนตัดสินใจที่จะตัดแว่นในแต่ละครั้งผู้ที่สวมใส่ก็ควรที่จะศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจในรายละเอียดให้ดีก่อน ในวันนี้เราจึงมีความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับเลนส์แต่ละชนิดและวิธีการเลือกเพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้เหมาะสมกับตัวคุณมาฝากกัน

ชนิดและคุณสมบัติของเลนส์แว่นตาแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน

เลนส์แว่นตาแบบชั้นเดียว (Single Lens)

คือเลนส์ที่มีค่าสายตาเดียวบนพื้นผิวเลนส์ ผลิตจากพลาสติกที่ผลิตขึ้นสำหรับทำเลนส์โดยเฉพาะ ซึ่งมีคุณสมบัติที่เบา และทนทาน ไม่เปลี่ยนรูปร่างเมื่อโดนความร้อน ให้กำลังสายตาที่คงที่ มีความแม่นยำ และแน่นอน ซึ่งเลนส์แว่นจากพลาสติกที่มักนำมาใช้ได้แก่ พลาสติกธรรมดา พลาสติกบางพิเศษ เป็นต้น

เลนส์แว่นตาแบบสองชั้น (Bifocal)

เป็นเลนส์ที่ประกอบด้วยเลนส์ 2 ชั้น ซึ่งชั้นบนจะเป็นเลนส์ที่มีค่าสายตาสำหรับมองในระยะไกล ส่วนชั้นเลนส์ที่มีความเล็กกว่าด้านล่างนั้นจะมีค่าสายตาสำหรับการมองใกล้ เลนส์แว่นตาแบบสองชั้นในลักษณะนี้จึงมีความสะดวกและง่ายในการใช้งาน โดยที่ผู้สวมไม่ต้องถอดสลับแว่นไปมา

เลนส์แว่นโปรเกรสซีฟ (Progressive)

คุณสมบัติของเลนส์แว่นตาชนิดนี้สามารถใช้มองได้ทุกระยะ ทั้งใกล้ กลาง และไกล ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ สามารถปรับเปลี่ยนโดยการเน้นให้ชัดในระยะใดระยะหนึ่งที่คุณต้องการใช้งานได้ หรือจะเลือกให้ชัดทุกระยะเลยก็ได้

เลนส์แว่นแบบปรับแสงอัตโนมัติ (Photo & Transition)

เลนส์แว่นตาชนิดนี้สามารถเปลี่ยนสีความเข้มของเลนส์ไปตามความเข้มของแสงที่ได้รับได้ โดยจะยิ่งเข้มขึ้นเมื่อโดนแสงมาก และอ่อนลงเมื่ออยู่ในที่ร่ม สามารถช่วยป้องกันรังสียูวีจากแสงแดดได้ เหมาะแก่การสวมใส่ทำงานทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง

เลนส์มัลติโค้ทแบบชั้นเดียว (Multicoat)

เกิดจากการเคลือบสารที่เรียกว่ามัลติเลเบอร์ไว้บนพื้นผิวของเลนส์ทั้งสองด้าน ซึ่งมีการเคลือบทั้งเลนส์แบบพลาสติกและกระจก คุณสมบัติจากการเคลือบนี้จึงทำให้เลนส์แว่นมัลติโค้ทมีความสวยงามเป็นประกายสีรุ้ง ไม่มีแสงสะท้อนจากพื้นผิวเลนส์ เลนส์มีความใสและให้ภาพที่คมชัดและมีความเป็นธรรมชาติ ทำให้สามารถสวมใส่ขับรถตอนกลางคืนและอ่านหนังสือได้นานขึ้น

ป้องกันเลนส์แว่นตาเป็นรอยด้วยคุณสมบัติพิเศษ

การเคลือบแข็งบนพื้นผิวเลนส์แว่นตา (Hard Coated)

คือการเคลือบสารพิเศษลงบนพื้นผิวพลาสติก ทำให้มีคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้น ช่วยขจัดปัญหาเลนส์แว่นตาเป็นรอย ทำให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้นโดยที่ไม่เกิดรอยขีดข่วนบนเลนส์ ซึ่งการเคลือบสารพิเศษแบบนี้สามารถทำได้กับเลนส์หลายชนิด เช่น เลนส์มัลติโค้ทชั้นเดียว เลนส์แว่นชั้นเดียว และสองชั้น เป็นต้น

การเคลือบ UVX

เป็นการเคลือบสำหรับเลนส์แว่นกันแดด เพื่อป้องกันคลื่นอัลตราไวโอเลตที่มาจากดวงอาทิตย์หรือที่มาจากที่ต่างๆซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้ มีคุณสมบัติในการช่วยตัดแสง UV

การเคลือบ Aqua Coated

เป็นการเคลือบผิวเลนส์แว่นตาให้เรียบเพื่อป้องกันรอยและคราบต่างๆบนพื้นผิวเลนส์ เช่น น้ำหรือของเหลวต่างๆที่หยดใส่ ป้องกันการจับตัวของฝุ่นและคราบไขมันต่างๆ ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายด้วยการเช็ดออกแบบเบาๆ เลนส์แว่นตาก็จะกลับมาใสเหมือนใหม่

ในการเลือกแว่นตามาสวมใส่สักอันนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของกรอบหรือรูปแบบของแว่นตาเท่านั้นที่ผู้สวมใส่ควรจะให้ความสำคัญ แต่ยังรวมไปถึงรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือ เลนส์แว่น ซึ่งทุกคนควรที่จะศึกษาและหาข้อมูลรายละเอียดด้วยตนเองประกอบกับการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา เช่น หากต้องการมองใกล้และไกลได้ในแว่นตาอันเดียวก็ควรเลือกใช้เลนส์แว่นตาแบบสองชั้น หรือหากไม่อยากกังวลกับปัญหาเลนส์แว่นตาเป็นรอยที่จะตามมาในภายหลังก็ควรจะเพิ่มการเคลือบแข็งไปด้วย เพราะอย่าลืมว่า คนเรานั้นมีสายตาเพียงคู่เดียว ฉะนั้นจึงควรถนอมมันไว้และเลือกสิ่งที่ดีและเหมาะสมที่สุดให้กับสายตาของเรา