เรื่องของขวดนมที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้!!

“ขวดนม” เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทหลังจากที่ลูกน้อยของคุณเริ่มหย่านมแล้ว โดยสิ่งนี้จะใช้สำหรับบรรจุนมและน้ำดื่มนั่นเอง ในครั้งนี้ Central Inspirer จึงได้นำข้อมูลของนมที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาฝากกัน เพื่อให้คุณเข้าใจและรู้จักอุปกรณ์ชิ้นนี้กันมากยิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

ประเภทของขวดนม

สิ่งที่คุณควรจะรู้จักเป็นอย่างแรกคือประเภทของขวดนมนั่นเอง โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามวัสดุที่ใช้ผลิต ดังนี้

  1. ขวดนมที่ทำจากพลาสติก

แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

1.1 ขวดนม PP (POLYPROPYLENE)

ขวดนมชนิดนี้จะมีลักษณะที่สังเกตได้ค่อนข้างง่าย โดยจะมีกึ่งโปร่งใส หรือขาวขุ่น สามารถทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20 ไปจนถึงประมาณ 120 องศาเซลเซียส มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความถี่ในการนำขวดนมไปต้มหรือนึ่ง

bottle-milk-1

Shop Now

1.2 ขวดนม PES (POLYETHERSULFONE)

ขวดนมที่ทำจาก POLYETHERSULFONE จะมีสีชาหรือออกน้ำผึ้ง มีความสามารถในการทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -50 ไปจนถึง 180 องศาเซลเซียส อายุการใช้งานยาวนานตั้งแต่ 6 เดือนไปจนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับความถี่ในการนำไปอบฆ่าเชื้อ และการนำไปต้ม

1.3 ขวดนม PPSU (POLYPHENYLSULFONE)

ขวดนมที่ทำจาก PPSU ถือว่าเป็นขวดนมเกรดพรีเมี่ยมเนื่องจากเป็นพลาสติกเกรดพรีเมี่ยมที่ใช้อย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ โดยส่วนใหญ่จะทนอุณหภูมิ -50 ไปจนถึง 180 องศาเซลเซียส มีอายุที่ยาวนานกว่าประเภทอื่นๆ อยู่ที่ราวๆ 8 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับความถี่ในการนำไปอบฆ่าเชื้อ และการนำไปต้ม

bottle of milk 2

Shop Now

  1. ขวดนมที่ทำจากแก้ว

ขวดนมที่ทำจากแก้วมีข้อดีคือช่วยลดความเสี่ยงจากสาร BPA ในขวดนมพลาสติกที่ไร้คุณภาพเมื่อถูกความร้อน มีความทนทาน ใช้งานได้ไม่จำกัดเวลา แถมยังเป็นรอยได้ยากกว่าอีกด้วย แต่ก็มีข้อเสียก็คือมีน้ำหนักมากกว่าขวดนมพลาสติก แตกง่าย แถมยังมีราคาแพงอีกด้วย

 

รู้จักกับจุกของขวดนม

จุกของขวดนมเองก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องรู้จักและให้ความสำคัญเช่นกัน โดยจุกของขวดนมนั้นจะมีอายุการใช้งานประมาณ 3 เดือน เมื่อครบกำหนดแล้ว ต้องทำการเปลี่ยนในทันที จุกของขวดนมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามวัสุดที่ใช้ผลิต ดังนี้

 

  1. จุกนมยาง – มีสีน้ำตาล ทำจากยางพาราที่สามารถทนความร้อนได้ถึง 100 องศาเซลเซียส แต่มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างสั้นคือประมาณ 3 เดือนก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ แต่ถ้าผ่านความร้อนสูงบ่อยๆ อายุอาจจะเหลือเพียง 1 เดือน

 

  1. จุกนมซิลิโคน – มีสีขาวใส สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 120 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังมีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนานกว่าจุกนมยาง โดยสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 6 เดือน ถ้าดูแลอย่างถูกต้อง และไม่ผ่านความร้อนที่สูงเกินไปบ่อยๆ ไม่อย่างนั้นอายุอาจจะเหลือเพียง 1 เดือนครึ่งหรือ 2 เดือนได้

 

ทั้งนี้ ตอนที่ลูกน้อยของคุณกำลังใช้ขวดนมอยู่ ให้สังเกตด้วยว่าเขาร้องไห้งอแงหรือไม่ หรือหลับไปสักพักก็ตื่นขึ้นมา สิ่งนี้พอจะสันนิษฐานได้ว่ารูของจุกนมเล็กเกินไป น้ำนมไหลไม่ทันใจ ให้คุณแม่นำเข็มหรืออะไรแหลมๆ มาขยายให้รูของจุกนมให้กว้างขึ้น ก็จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้

 

วิธีทำความสะอาดขวดนม

การทำความสะอาดเป็นอิ่งที่พ่อแม่ควรให้ความสำคัญ เพราะการล้างขวดนมไม่ถูกวิธีอาจะทำให้มีสารเคมี และสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ได้ ส่งผลให้ลูกน้อยของคุณอาจจะได้รับสารปนเปื้อนเหล่านีเข้าไปด้วยเมื่อใช้ขวดนมในครั้งต่อไป ดังนั้นคุณควรจะล้างขวดนมให้ถูกวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้น ด้วย 5 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

  1. ถอดชิ้นส่วนของขวดนมออกให้หมด ไม่ว่าจะเป็น ฝาขวดนม จุกขวด และตัวขวด เพื่อให้ทุกๆ ได้รับการทำความสะอาดให้หมดจด จากนั้นให้นำไปวางไว้ในอ่างหรือภาชนะที่มีขนาดพอเหมาะกับชิ้นส่วนของขวดนมทั้งหมด จากนั้นให้เติมน้ำร้อนลงไป ทิ้งเอาไว้ประมาณ 3 นาที จากนั้นให้เทน้ำออก
  2. ผสมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดขวดนมกับน้ำอุ่น แล้วค่อยๆ ใช้ฟองน้ำล้างชิ้นส่วนต่างๆ โดยต้องเริ่มจากด้านในมาสู่ด้านนอก ห้ามใช้ฟองน้ำ ถูหรือขัดขวดนมแรงๆ เด็ดขาด เพราะจะทำให้เป็นรอยและมีอายุการใช้งานที่สั้นลง
  3. ล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2-3 รอบ จากนั้นให้นำนิ้วถูขวดนมเบาๆ เพื่อตรวจสอบว่ายังมีคราบนม น้ำยาทำความสะอาดตกค้างอยู่หรือไม่ จากนั้นให้ดมกลิ่นด้วยว่ายังมีกลิ่นแปลกปลอมอยู่หรือไม่ เพราะขวดนมที่สะอาดเอี่ยมแล้วจะไม่มีกลิ่นใดๆ ตกค้าง
  4. ผึ่งขวดนนมบนภาชนะหรือตะแกรง แล้วยกเอาไปผึ่งกับลมให้แห้ง ห้ามนำไปผึ่งกับแดดเด็ดขาด เพราะแสงแดดจะทำให้จุกนม และพลาสติกของขวดเสื่อมสภาพได้ไวขึ้น
  5. เมื่อขวดนมแห้งแล้ว ให้นำไปฆ่าเชื้อต่อ ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง คือ การต้ม การนึ่งด้วยหม้อไฟฟ้า และการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เมื่อทำการฆ่าเชื้อเสร็จแล้วก็สามารถเตรียมขวดนมไว้สำหรับการใช้งานต่อไปได้เลย

 

ช่วงเวลาที่ควรให้ลูกหยุดใช้ขวดนม

แม้ว่าขวดนมจะอยู่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกน้อยสำหรับการดื่มนมและน้ำ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อถึงเวลา คุณพ่อ คุณแม่ควรให้ลูกหยุดใช้ขวดนม เพราะถ้าใช้ขวดนมนานเกินไปจะเป็นที่มาของสาเหตุที่ทำให้ฟันผุและโรคอ้วนได้ โดยวัยที่เหมาะสำหรับการให้ลูกหยุดใช้ขวดนมคือ 1 ปีหรือ 1 ปีครึ่ง โดยในช่วงที่ลูกน้อยอยู่ในวัย 6-9 เดือนให้เขาเริ่มหัดการทานน้ำและนมด้วยแก้ว สลับกับขวดนมเพื่อให้เขารู้จักกับภาชนะประเภทอื่น จากนั้นให้คุณทำข้อตกลงกับเขาล่วงหน้าว่าจะไม่ให้ใช้ขวดนมแล้วเมื่ออายุครบ 1 ปี เพื่อให้เขาปรับตัวไว้ล่วงหน้า และในช่วงครบกำหนดนี้ให้คุณเก็บขวดนมไว้ให้มิดชิดด้วย

 

หวังว่าคุณคงรู้เจ้าขวดนมกันลึกมากยิ่งขึ้นกันแล้ว และสำหรับใครที่กำลังมองหาขวดนมคุณภาพสูง สามารถไปช้อปต่อได้เลยที่ Central Online แหล่งรวมสินค้าพรีเมี่ยมที่มีให้คุณเลือกซื้ออย่างหลากหลาย