ในช่วงวันหยุดยาวต้อนรับปีใหม่ หลายคนเลือกการท่องเที่ยว หรือการเดินทางกลับบ้านเป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่ในปีนี้ การได้ออกเดินทางไปเที่ยวในที่ที่อยากไป ไปสูดโอโซนบริสุทธิ์ ไปปะทะลมหนาว ไปสวัสดีแสงแรกแห่งปี หรือเลือกกลับบ้านไปกราบคุณพ่อคุณแม่ พบปะญาติพี่น้อง ล้วนเป็นความสุขที่ทุกคนต่างรอคอย
เมื่อผู้คนออกเดินทาง ถนนหนทางที่มุ่งสู่ทุกภาครถราติดขัด การเดินทางด้วยรถยนต์ และรถโดยสารดูเหมือนจะเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุด ไม่นับการเดินทางด้วยเครื่องบินไปต่างประเทศ หรือไปต่างจังหวัดไกลๆ
แต่มีการเดินทางอีกแบบที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง แต่ก็มีประชาชนใช้บริการกันอย่างมากมาย นั่นคือ การเดินทางโดยรถไฟ ซึ่งนับเป็นการเดินทางที่ปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ แถมยังให้คุณได้เห็นวิวทิวทัศน์แสนสวยตลอดเส้นทางจนสู่จุดหมาย
การเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวที่สะดวกสบาย และปลอดภัย Central Inspirer จึงอยากเชิญชวนเพื่อนๆ ลองเปิดทริปเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟกันดู จะไปเที่ยวตอนไหนก็ได้ เส้นทางรถไฟมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยี่ยมเยียนหลากหลายแห่ง เพือนๆ ไม่ต้องเหนื่อเพลียกับการขับรถยนต์เป็นเวลานานๆ การเที่ยวแบบ One-Day-Trip ด้วยรถไฟ หรือไปค้างอ้างแรมสัก 2-3 คนถือเป็นการเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าสมใจ แต่ก่อนจะเริ่มออกเดินควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการเดินทางโดยรถไฟกันก่อน เพื่อความสะดวก และความปลอดภัยกันค่ะ
Picture credit: travel.kapook.com
8 ข้อควรปฏิบัติในการเดินทางโดยรถไฟ
1. ซื้อตั๋วก่อนขึ้นขบวนรถไฟ
อย่าขึ้นรถไฟโดยไม่มีตั๋วโดยสาร หากเพื่อนๆ อยากเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟ จำเป็นจะต้องซื้อตั๋วก่อนขึ้นขบวนรถไฟ หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้โดยสารเดินทางโดยไม่มีตั๋วโดยสาร เจ้าหน้าที่บนขบวนรถไฟจะเรียกเก็บค่าโดยสารในอัตราที่การรถไฟแห่งประเทศไทยกำหนดตามระยะทางที่เดินทาง และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมซื้อตั๋วบนขบวนรถไฟเพิ่มเติม
- ขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน และรถเร็ว ค่าโดยสารคนละ 250 บาท
- ขบวนรถอื่นๆ นอกเหนือขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน และรถเร็ว ค่าโดยสารคนละ 100 บา
ข้อยกเว้น กรณีเรียกเก็บค่าโดยสารเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมซื้อตั๋วบนขบวนรถกับ
- ผู้โดยสารที่อยู่ในเกณฑ์ หรือเด็ก
- นักเรียนในเครื่องแบบไม่เกินชั้นมัธยมศึกษา
- ผู้โดยสารที่ขึ้นโดยสารจากที่หยุดรถ / ป้ายหยุดรถที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ หรือตัวแทนเปิดจำหน่ายตั๋ว
- สถานีซึ่งมีการแจ้งเหตุขัดข้องเกี่ยวกับการจำหน่ายตั๋ว
2. ใช้สิทธิโดยสารให้ตรงตามขบวนรถ และหมายเลขที่นั่งที่กำหนด
Picture credit: seat61.com
เมื่อได้ตั๋วรถไฟแล้ว สิ่งที่เพื่อนๆ ควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด นอกเหนือจากการตรวจสอบเลขขบวนรถ ชั้น ประเภทตู้รถ รวมถึงเวลาต้นทางและปลายทางแล้ว เพื่อนๆ ควรควรตรวจสอบโบกี้รถไฟคันที่นั่ง และเลขที่นั่ง จำไว้เสมอว่าอย่านั่งผิดที่ เพราะทุกคนที่จองตั๋วเดินทางทางรถไฟจะถูกระบุที่นั่งไว้ทั้งหมดหมด ยกเว้นตั๋วไม่มีที่นั่ง และรถบริการเชิงสังคมจะไม่ระบุที่นั่ง
3. ห้ามขึ้น หรือลงรถในขณะที่ขบวนรถไฟกำลังเคลื่อนที่
เมื่อรถไฟกำลังเคลื่อนที่ ไม่ควรขึ้นหรือลงจากขบวนรถไฟโดยเด็ดขาด เพราะความเร็วของรถไฟอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ พลัดตกรถไฟ และอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ในขณะที่รถไฟกำลังเคลื่อนที่ เพื่อนๆ ควรนั่งอยู่กับที่นั่งโดยสารของตัวเอง หรือหากต้องขึ้นหรือลงรถ ควรให้ขบวนรถไฟจอดสนิทเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองนะคะ
4. ห้ามยืนระหว่างหัวต่อรถโดยสาร บันไดรถ และหลังคาขบวนรถไฟโดยเด็ดขาด
ห้ามยืนระหว่างหัวต่อรถโดยสาร และห้ามใช้บันไดเป็นที่โดยสารโดยเด็ดขาด เพราะอาจพลัดตกจากขบวนรถรถไฟได้ เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น เพื่อนๆ ควรปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ของการทางรถไฟแห่งประเทศไทย และเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ประจำรถจะดีที่สุด
5. ห้ามนำอาหารกลิ่นรุนแรงและสัตว์เลี้ยงขึ้นมาบนขบวนรถไฟแบบปรับอากาศ
Picture credit: redbubble.com
เพราะการเดินทางรถไฟเป็นการเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ เป็นการใช้ยานพาหนะร่วมกันกับผู้อื่นในสังคม การนึกถึงใจเขาใจเราจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรคำนึงถึง เช่น ไม่ควรนำอาหาร หรือผลไม้ที่มีกลิ่นรุนแรง ไม่ควรสัตว์เลี้ยงขึ้นมาบนขบวนรถไฟแบบปรับอากาศ หรือแม้แต่การนำเครื่องดืมมึนเมามาดื่มบนรถ เพราะนอกจากจะเป็นการรบกวนผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการแสดงถึงการไม่เคารพสิทธิส่วนบุคคลอีกด้วย
6. ห้ามยื่นหน้าหรือส่วนใดๆ ของร่างกายออกนอกขบวนรถไฟ
หนึ่งในเรื่องของความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟที่ไม่ควรมองข้ามคือ การระวังไม่ยื่นหน้า หรือส่วนใดๆ ของร่างกายออกนอกขบวนรถไฟ เพราะระหว่างทางอาจเกิดการเฉี่ยวชนเข้ากับสิ่งกีดขวางต่างๆ บริเวณรางรถไฟได้ เช่น กิ่งก้านของต้นไม้ พุ่มไม้ สิ่งปลูกสร้าง เสาสะพาน หรืออาคารบ้านเรือนต่างๆ หากไม่ระวัง และละเลยไม่ปฏิบัติตาม เพื่อนๆ อาจประสบอุบัติเหตุ หรือแม้แต่ถึงแก่ชีวิตได้
7. ตรวจสอบสัมภาระทุกครั้ง ทั้งก่อนขึ้น และลงจากขบวนรถไฟ
Picture credit: gotothailand.com
เพื่อป้องกันการสูญหายของทรัพย์สิน ผู้โดยสารรถไฟจำเป็นต้องตรวจสอบสัมภาระทั้งก่อนขึ้น และลงจากขบวนรถไฟทุกครั้ง รวมทั้งไม่ฝากทรัพย์สินส่วนตัวไว้กับคนแปลกหน้า หากผู้โดยสารลืมสัมภาระไว้บนขบวนรถไฟให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สถานี เพื่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ขบวนรถให้ส่งกลับมากับขบวนรถคันอื่น หรือติดต่อที่เบอร์ 1690 เพื่อทำการประสานงานตามหาสัมภาระนั้นๆ ต่อไป
8. ช่วยกันดูแล และรักษาความสะอาด
การท่องเทียว หรือการโดยสารทางรถไฟ นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารควรช่วยกันควรรักษาความสะอาดทั้งบนขบวนรถ และสถานี ไม่ควรทำลายอุปกรณ์และเครื่องสุขภัณฑ์ ไม่ควรมือบอนขีดเขียนลงบนฝาผนังสถานีหรือบนรถโดยสาร รวมทั้งควรทิ้งขยะในภาชนะจัดไว้ให้
การจำหน่ายตั๋วรถไฟ
Picture credit: thailanguagehut.com
จะเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟสักที ควรเตรียมการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าให้พร้อม การรถไฟแห่งประเทศไทยให้ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางโดยรถไฟสามารถซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ หรือตัวแทนที่เปิดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าทุกแห่ง หรือจองทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 1690 ได้ทุกวันตลอด 24 ชม.ก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 5 วัน (ผู้ที่โทรสำรองที่นั่งโดยสารแล้ว ต้องไปรับตั๋วไม่เกินเวลา 22.00 น. ของวันรุ่งขึ้น หากไม่ไปรับตั๋วตามเวลาที่กำหนด จะทำการยกเลิกการสำรองที่นั่งนั้นๆ โดยอัตโนมัติ โดยการโทรสำรองนั่งนั้น สามารถได้ครั้งละไม่เกิน 10 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ปรับลดระยะเวลาการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าจากเดิมจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน เป็น 30 วันก่อนวันเดินทาง ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
- ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน
- ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางตั้งแต่ร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ ภายใน 30 วัน
**กำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย และผู้โดยสารสามารถสำรองที่นั่งได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ
ทราบถึงข้อปฏิบัติในการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟกันแล้ว ทราบวิธีซื้อตั๋วโดยสารกันแล้ว ครวนี้มาดูกันว่าเส้นทางสถานที่ท่องเที่ยวทางรถไฟมีที่ไหนกันบ้าง ไปเที่ยวกันเลยค่ะ
10 เส้นทางท่องเที่ยวโดยรถไฟที่น่าสนใจ ไปกันเลย!
Picture credit: lonelyplanet.com
1. จังหวัดอยุธยา
Picture credit: paimayang.com/
ทริปแรกของชวนเพื่อนๆ ออกเดินทางนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองเก่าของเรากันค่ะ จังหวัดอยุธยานับเป็นจุดหมายปลายทางใกล้ๆ และเดินทางได้อย่างสบายๆ หากเพื่อนๆ อยากลองเดินทางท่องเที่ยวแบบ One -Day-Trip ทางรถไฟ เพราะอยุธยาอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มาก ทั้งยังมีที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัดวาอาราม โบราณสถานอัน เก่าแก่ อาทิ อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดไชยวัฒนาราม วัดมหาธาตุ และอีกมากมายรวมทั้งพลาดไม่ได้กับการรับประทานกุ้งแม่น้ำเผาของดีประจำจังหวัดค่ะ
2. จังหวัดนครปฐม
Picture credit: travel.kapook.com
เส้นทางรถไฟสายสั้นๆ อีกหนึ่ง One -Day-Trip นั่งรถไฟท่องเที่ยวรับอารมณ์หวานเย็นนิดๆ เพื่อนๆ สามารถจะนั่งรถไฟมาลงที่อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐม แล้วไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น เยี่ยมชมหอภาพยนคร์เมืองมายา หาอาหารอร่อยๆ คาเฟ่เก๋ๆ ให้นั่งชิลล์ หรือนั่งรถไฟยาวอีกนิดไปลงที่สถานีรถไฟนครปฐม ไปสักการะแทะเที่ยวชมองค์พระปฐมเจดีย์ ช้อปชิลล์ๆ ที่ตลาดนครปฐม เที่ยววัดพระประโทณเจดีย์ และพระราชวังสนามจันทร์ เรื่องอาหารการกิน นครปฐมมีชื่อเสียงเรื่องข้าวหมูแดง พลาดไม่ได้ต้องแวะอิ่มอร่อยที่ร้านตั้งฮะเส็งข้าวหมูแดง หรือร้านหมูบินข้าวหมูแดง เรียกว่าเที่ยวสนุกแถมท้องอิ่มด้วยอาหารอร่อย สถานีรถไฟก็อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวด้วยค่ะ
3. ทางรถไฟลอยน้ำโคกสลุง จังหวัดลพบุรี
Picture credit: readthecloud.co
ทางรถไฟลอยน้ำโคกสลุง ตั้งอยู่ในตำบลโคกสลุง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่เที่ยวสนุกได้ด้วยรถไฟ เส้นทางรถไฟในบริเวณนี้วิ่งเลียบเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีทัศนียภาพที่กว้างใหญ่สวยงาม นับเป็นอีกแห่งที่คนรักการถ่ายภาพคงพลาดไม่ได้ ในช่วงเดือนมีนาคม-กันยายนของทุกปี น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะลดระดับ ทำให้น้ำแห้งมองเห็นพื้นหญ้าสีเขียวสลับกับแอ่งน้ำ กลายเป็นจุดชมวิวทางรถไฟที่สามารถขับรถเข้าไปถ่ายรูป ตั้งแคมป์ปิคนิค หรือนัั่งพักผ่อนชมวิวสะพานข้ามรถไฟได้ แถมยังมีวิวฝูงควายหลายสิบตัวที่ชาวบ้านปล่อยให้มาเดินหากินแทะเล็มหญ้าเล่นน้ำ เป็นภาพที่ทำให้รู้สึกว่าได้กลับมาสัมผัสกับธรรมชาติ และความเป็นวิถีแบบชาวบ้านได้อย่างมีความสุขใจอีกด้วย
4. นั่งรถไฟเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี
Picture credit: travel.kapook.com
อีกแห่งของการท่องเที่ยวทางรถไฟที่พลาดไม่ได้คือ การนั่งรถไฟเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี แลนด์มาร์คอีกแห่งที่ถ่ายรูปสวย รับรองว่าได้นั่งรถไฟเที่ยวชิลล์สมใจ พร้อมได้มุมสวยๆ ถ่ายรูปกลับมาอีกด้วย สำหรับการนั่งรถไฟเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย บริการขบวนรถพิเศษนำเที่ยวต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวเส้นทาง กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตลอดเดือนมกราคม 2565 นี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690
5. สะพานข้ามแม่น้ำแคว-เส้นทางรถไฟสายมรณะ-ถ้ำกระแซ-น้ำตกไทรโยคน้อย จังหวัดกาญจนบุรี
Picture credit: thefloathouseriverkwai.com
ใครอยากสัมผัสกับธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพรโดยเลือกเดินทางโดยรถไฟ อาจเลือกไปค้างสัก 1 คืนที่จังหวัดกาญจนบุรีเพื่อให้เที่ยวได้ครบ ขอแนะนำเส้นทางรถไฟกรุงเทพฯ – น้ำตกไทรโยคน้อย โดยรถไฟจะแล่นผ่านจังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดกาญจนบุรี แล้วไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก อำเภอไทรโยคที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างเส้นทางนี้มากมาย โดยเฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรี อาทิ สะพานข้ามแม่น้ำแคว เส้นทางรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซ และน้ำตกไทรโยคน้อย เพื่อนๆ จะได้สัมผัสกับเส้นทางรถไฟประวัติศาสตร์ไทย-พม่า ระยะทางกว่า 415 กิโลเมตร ก่อสร้างด้วยความยากลำบากของเชลยศึกนานาชาติสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่งรถไฟชมธรรมชาติผ่านช่วงสะพานข้ามแม่น้ำแควและช่วงโค้งมรณะ หรือถ้ำกระแซซึ่งเป็นสะพานโค้งเลียบ แม่น้ำแควน้อยยาวประมาณ 400 เมตร ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางนี้สวยงาม เลาะไปตามเชิงผาเลียบไปกับลำน้ำแควน้อย โดยรถไฟจะจอดที่สถานีถ้ำกระแซในเวลา 13.30 น.ให้ได้เดินชมกันได้อย่างสบายๆ อีกด้วย
6. อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย จังหวัดสระบุรี
Picture credit: eventpass.co
อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสุดชิคของจังหวัดสระบุรีคือ อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี อุโมงค์แห่งนี้เป็นทางรถไฟลอดภูเขา 1 ใน 7 แห่งของประเทศไทย ภายในเป็นผนังคอนกรีต มีทางเข้าอุโมงค์โค้งเป็นรูปเกือกม้า ที่หากยืนอยู่ภายในตัวอุโมงค์แล้วมองผ่านช่องออกมากเห็นท้องสีฟ้าสวย ตัดกับสีของผนังอุโมงค์ ซึ่งอุโมงค์รถไฟพระพุทธฉายนี้กลายเป็นมุมถ่ายภาพที่สวยแปลกตา จนกลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิต ถูกใจเหล่านักท่องเที่ยวทางรถไฟ หรือเหล่าวัยรุ่นฮิปสเตอร์ที่ต้องแวะมาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉายมี 2 ฝั่ง คือ ระหว่างสถานีรถไฟบุใหญ่ กับสถานีรถไฟวิหารแดง ลองไปกันให้ได้นะคะ
7. ทางรถไฟตลาดร่มหุบ จังหวัดสมุทรสงคราม
Picture credit: steemit.com
ตลาดร่มหุบ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ตลาดแม่กลอง ในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นตลาดสดที่ตั้งขายโดยวิธีการกางร่มแบบแนบชิดรางรถไฟ เป็นจุดไฮไลท์ที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางไปถ่ายรูปและเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตของผู้คนในตลาดร่มหุบกันทุกวัน นับเป็นตลาดที่สร้างชื่อเสียงให้เมืองไทยไปทั่วโลก ในทุกวันจะมีขวบนรถไฟขบวนสายสั้นวิ่งผ่านจากสถานีมหาชัยถึงสถานีแม่กลองให้เพื่อนๆ ลองไปนั่งโดยสารได้ ในตลาดร่มหุบนี้ เมื่อมีสัญญาณแจ้งว่าจะมีรถไฟวิ่งผ่าน เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็จะทยอยเก็บข้าวของที่ขาย รวมทั้งหุบร่มเข้าที่อย่างรวดเร็ว และเมื่อรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว ข้าวของที่นำมาขาย รวมทั้งร่มที่จะถูกนำกลับมาวาง และมากางไว้อย่างเป็นระเบียบและรวดเร็วเช่นเดิม ซึ่งเป็นเสน่ห์และความสนุกสนานของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้พบเห็น
8. จังหวัดราชบุรี
Picture credit: ratchaburi.mots.go.th
เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่สามารถนั่งรถไฟไปเที่ยวชิลล์ๆ จากกรุงเทพฯ กันได้ง่าย ๆ ใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมงคือ จังหวัดราชบุรี อีกทั้งยังมีรอบรถไฟทั้งขาไป และขากลับหลายรอบต่อวัน เมื่อไปถึงสถานีรถไฟราชบุรีแล้ว ก็สามารถไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองราชบุรีได้หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร หอศิลป์ร่วมสมัยเถ้า ฮง ไถ่ ดีคุ้น ตลาดเก่าโคยกี๊ ราชบุรี หอนาฬิกา สะพานจุฬาลงกรณ์ วัดช่องลม พระอารามหลวง และวัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม หลากหลายสถานที่น่าสนใจ เที่ยวเพียงวันเดียวคงไม่ได้ อีกทั้งจงหวัดราชบุรียังมีอาหารอร่อยๆ ที่ไม่ควรพลาด เช่น ก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่มที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟด้วย
9. สถานีรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
Picture credit: thetrippacker.com
ทริปท่องเที่ยวทางรถไฟทริปนี้พาคุณมาเยี่ยมชมสถานีรถไฟหัวหิน ที่ตั้งอยู่ในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นสถานีรถไฟที่มีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรม ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศไทย อาคารสถานีรถไฟหัวหินเป็นอาคารอนุรักษ์ ครึ่งตึกครึ่งไม้ ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมวิคทอเรีย มีรายละเอียดสวยงาม ประดับเสาค้ำยัน และอื่นๆ สถานีรถไฟหัวหินจึงกลายเป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวอำเภอหัวหินเป็นอย่างมาก แม้วันเวลาจะผ่าน ไปนานเท่าไหร่ แต่สำหรับ สถานีรถไฟหัวหิน ยังคงได้รับการอนุรักษ์บรรยากาศด้วยการเก็บรักษาสิ่งก่อสร้างเดิมให้มีสภาพดีสวยงาม มาเที่ยวหัวหินทั้งที จะไม่อยู่สัก 1 -2 คืนได้อย่างไร ได้เล่นน้ำทะเลสีฟ้าสวย ทรายขาวละเอียด แถมชิมอาหารทะเลอร่อยๆ ได้พักผ่อนสบายๆ อย่างแน่นอน
10. สถานีกันตัง จังหวัดตรัง
Picture credit: readthecloud.co
เที่ยวกันไกลๆ กับรถไฟสายใต้ไปเยี่ยมชมสถานีรถไฟกันตังที่ตั้งอยู่บนถนนหน้าค่าย อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นสถานีรถไฟสุดทางของทางรถไฟสายใต้ฝั่งทะเลอันดามัน เป็นสถานีเก่าแก่ที่ยังคงยังรักษาเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ไว้ได้เป็นอย่างดี นับเป็นสถานีรถไฟที่มีความสวยงาม ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเช่นนี้ เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยาทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล ด้านหน้าของอาคารมีมุขยื่นตกแต่งประดับมุมเสาด้วยลวดลายไม้ฉลุคงเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 พื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟแห่งนี้ในอดีตเคยคึกคักไปด้วยโรงเก็บรถจักร และบ้านพักพนักงานการรถไฟ แต่ปัจจุบันได้เงียบเหงาลงตามวัฏจักรของสรรพสิ่ง คงไว้แต่ร่องรอยของอดีตผ่านตัวอาคารที่งดงาม แต่อย่างไรนั่งรถไฟลงใต้ไปตรังก็ต้องชมความสวยงามจากประวัติศาสตร์ที่หลงเหลือไว้ พร้อมอยู่เที่ยวเมืองตรังสัก 2-3 วัน ต้องไม่ลืมลิ้มรสชาติอาหารเช้าสไตล์คนตรัง ชิมหมูย่างตรัง เดินชมสตรีทอาร์ทเมืองกันตัง แวะสัมผัสความร้อนของวนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง เผลอๆ เที่ยวเพลินไปหมกตัวอยู่ที่เกาะมุกสัก 1-2 วัน นั่งรถไฟไปไกลถึงตรังทั้งทีเที่ยวให้ครบเลยค่ะ
น่าสนุกมั๊ยคะกับ 10 destinations เส้นทางรถไฟท่องเที่ยวเมืองไทยให้คุณลองเปลี่ยนโหมดท่องเที่ยวได้ ไม่ไปไม่รู้ ลองใช้เวลาสนุกๆ กับเพื่อนๆ คนรัก และสมาชิกในครอบครัวในรูปแบบใหม่ๆ อย่างการท่องเที่ยวทางรถไฟกันเถอะค่ะ Have a nice train trip!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: railway.co.th / travel.trueid.net / travel.kapook.com / travel.mthai.com