5 ฟีเจอร์เด่นจาก Microsoft Surface Studio

Microsoft Surface Studio คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ รุ่นใหม่ล่าสุดจาก ไมโครซอฟท์ ที่เหมือนเป็นการผสมผสานระหว่าง พีซีออลอินวัน และ แท็บเล็ต Surface Pro ชวนจับจ้องกับดีไซน์หน้าจอบางที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมขาตั้งปรับเอียงรับน้ำหนัก เพื่อรองรับงานดีไซน์ จากปากกา Surface Pen และ Surface Dial ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมคอมพิวเตอร์ล่าสุด ที่มาช่วยสร้างสัมผัสใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้ 

จอสัมผัส Pixel Sense

หน้าจอแบบสัมผัส Pixel Sense บน Surface Studio ช่วยให้สามารถสร้างสรรค์ไอเดีย บนจอภาพขนาด 28 นิ้วที่ให้ Resolution มากกว่าจอระดับ 4K (4500 x 3000 พิกเซล 192 PPI) ด้วยอัตราส่วนภาพ (Aspect Ratio) 3:2

รายละเอียดการแสดงสีแบบ 10 bit ที่ให้ความลึกและเฉดสีสวยคมสมจริง อีกทั้งรองรับการสัมผัสพร้อมกันได้ถึง 10 จุด โดดเด่นยิ่งกว่าด้วยดีไซน์บางเฉียบเพียง 12.5 มิลลิเมตร

 

อุปกรณ์เสริม สำหรับ Studio Mode

Microsoft Surface Studio มาพร้อมขาตั้งแบบบานพับ ที่สามารถปรับจอให้เอียงได้ในระดับต่ำสุดถึง 20 องศา เสมือนเป็นแผ่นรองเขียนหรือ Studio Mode เพื่อใช้สำหรับเริ่มต้นงานดีไซน์ต่างๆ

ร่วมกับ 2 อุปกรณ์เสริม อย่างปากกา Surface Pen ที่คุ้นเคยจากแท็บเล็ต Surface Pro 4 และรุ่นก่อนๆ รวมถึง Surface Dial อุปกรณ์เสริมใหม่ ที่ใช้งานร่วมกับจอสัมผัสบนแอปที่รองรับ อาทิ แอปวาดเขียน ที่สามารถใช้วางแล้วหมุนอุปกรณ์ไปบนหน้าจอ เพื่อปรับระดับสี เปลี่ยนขนาดหัวแปรง ได้อย่างง่ายดาย โดยที่อีกมือนึงยังคงวาดเขียนงานดีไซน์อยู่

 

ประสิทธิภาพที่ช่วยยกระดับการใช้งาน

นอกจากจอสัมผัส และ อุปกรณ์เสริม Microsoft Surface Studio แต่ละรุ่นยังทรงประสิทธิภาพ ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i5 และ i7 พร้อมชิปกราฟิก NVIDIA GeForce และ RAM สูงสุด 32 GB โดยแบ่งออกเป็นรุ่น

– Intel Core i5 / RAM 8 GB / NVIDIA GeForce GTX 965M 2GB GDDR5

– Intel Core i7 / RAM 16 GB / NVIDIA GeForce GTX 965M 2GB GDDR5

– Intel Core i7 / RAM 32 GB / NVIDIA GeForce GTX 980M 4GB GDDR5

ทุกรุ่นมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p และสิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ที่ พีซีออลอินวัน เครื่องหนึ่งควรจะมี

ซอฟต์แวร์ที่รองรับกับงานสร้างสรรค์

เหตุที่ไม่ถูกเรียกว่า พีซีออลอินวัน ก็เพราะ Microsoft Surface Studio สามารถเป็นได้มากกว่า “คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ” เพื่อตอบรับการทำงานของเหล่า นักสร้างสรรค์ ครีเอทีฟ และกราฟิกดีไซน์ รวมถึงสายอาชีพต่างๆ จึงมีซอฟต์แวร์รองรับการทำงานที่หลากหลาย ทั้งสก็ตช์ภาพได้ดั่งใจผ่าน Sketchable, Mental Canvas หรือ Drawboard PDF และ Bluebeam Revu ที่ใช้สำหรับงานวาดแปลน ออกแบบภายใน

รวมถึง StaffPad สำหรับงานด้านตัวโน้ตและดนตรี ซึ่งทั้งหมดรองรับการใช้งานกับ Surface Dial ทั้งยังสามารถร่วมกันทำงานหนึ่งชิ้นได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะทางอย่าง Adobe Premiere, Adobe Photoshop และ Adobe Lightroom

ประสบการณ์ใหม่จาก Windows 10 Creator Update

ส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับ Microsoft Surface Studio คือ Windows 10 Creator Update การอัปเดตครั้งใหญ่ของระบบปฏิบัติการวินโดว์ ที่ออกมาสนับสนุนการทำงานด้าน สร้างสรรค์ ให้ง่ายมากยิ่งขึ้น

อาทิ สร้างอาร์ตเวิร์กแบบ 3D หรือการเข้าถึงสื่อมัลติมีเดียในรูปแบบของ AR (Aungmented Reality) และ VR (Virtual Reality) ผ่านแว่น Microsoft HoloLens รวมถึงการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อย่าง Surface Dial ได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังเสริมฟีเจอร์เดิมๆ ที่มีอยู่บนวินโดว์ ให้มีลูกเล่นในการใช้งานที่หลากหลายมากกว่าเดิม

Microsoft Surface Studio แบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ รุ่นชิป i5 จำนวน 1 รุ่น และรุ่นชิป i7 จำนวน 2 รุ่น โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 2,999 เหรียญสหรัฐฯ (ราวๆ 105,000 บาท) จนถึง 4,199 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 147,000 บาท ปัจจุบันเปิดให้ Pre-Order บนเว็บ Microsoft ซึ่งจะได้รับสินค้าภายในปี 2017

ภาพและข้อมูล : Microsoft